การส่งเงินด้วย Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ไปยังเอลซัลวาดอร์ลดลง 17.8% ในช่วงสองเดือนแรกของปี 2023 เมื่อเทียบกับปี 2022 ตามข้อมูลล่าสุดที่เผยแพร่โดยธนาคารกลางของประเทศ (BCR) ที่รายงานโดย Agencia EFE
ตามแถลงการณ์ระบุว่า เอลซัลวาดอร์ได้รับเงินรวม 15.98 ล้านดอลลาร์ในการส่งเงินผ่าน cryptocurrencies โดยเงินจำนวนนี้ลดลง 3.47 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยเคยมีมากกว่า 19.45 ล้านดอลลาร์
การส่งเงินด้วย Crypto คิดเป็น 1.34% ของยอดเงินรวม
ตามข้อมูลของ BCR การส่งเงิน Crypto กลับไปยังเอลซัลวาดอร์ คิดเป็นเพียง 1.34% ของทั้งหมดที่ได้รับในประเทศ
แม้ว่าเปอร์เซ็นต์การส่งเงินที่ลดลงในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาคิดเป็นเกือบ 20% เมื่อเทียบกับปี 2022 แต่ความจริงก็คือ ตั้งแต่มีการประกาศให้ Bitcoin เป็นเงินที่ถูกกฎหมาย การใช้สกุลเงินดิจิทัลสำหรับการทำธุรกรรมระหว่างประเทศไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจของเอลซัลวาดอร์ โดยชาวเอลซัลวาดอร์ส่วนใหญ่ส่งเงินโดยใช้บริการแบบดั้งเดิม และจำนวนเงินที่พวกเขาส่งก็ค่อนข้างจะเท่ากัน
ในช่วงปี 2022 มีการโอนเงินมากกว่า 7 พันล้านดอลลาร์ไปยังประเทศในอเมริกากลาง อย่างไรก็ตาม มีเพียง 126 ล้านดอลลาร์เท่านั้นที่ถูกส่งโดยใช้ cryptocurrencies ตามข้อมูลของ Prensa Latina
สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่านโยบายเศรษฐกิจเกี่ยวกับ Bitcoin ที่เสนอโดยประธานาธิบดี Nayib Bukele ยังไม่โดนใจชาวเอลซัลวาดอร์ เนื่องจากคนส่วนใหญ่ยังคงชอบใช้เงิน fiat มากกว่าตัวเลือก แม้ว่าจะมีต้นทุนการทำธุรกรรมสูงและข้อเสียอื่น ๆ อีกมากมาย
หนึ่งในเหตุผลที่เป็นไปได้มากที่สุดที่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนชี้ให้เห็นคือ การขาดการศึกษาด้าน Crypto ในหมู่ประชากร โดยเมื่อ Bukele ส่งเสริมกฎหมาย Bitcoin ชาวซัลวาดอร์ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วสกุลเงินดิจิทัลคืออะไร ใช้งานอย่างไร หรือมีข้อดีอะไรบ้าง
อย่างไรก็ตาม Bukele ระบุว่าการท่องเที่ยวในเอลซัลวาดอร์โตขึ้น 95% ตั้งแต่เริ่มใช้กฎหมาย Bitcoin ยิ่งไปกว่านั้น ประธานาธิบดียังกล่าวในระหว่างการให้สัมภาษณ์ว่า “มี Bitcoiners จำนวนมากที่ต้องการไปยังประเทศที่ Bitcoin ถูกกฎหมาย”
