yestoken.digital คืออะไร ทำความรู้จักแพลตฟอร์ม Lending เจ้าแรกในไทย

สภาวะตลาด DeFi/CeFi และแพลตฟอร์ม Lending ในปัจจุบัน 

หลังจากปี 2022 ที่ผ่านมาเป็นช่วงตลาดหมี มีเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นทำให้นักลงทุนในโลกคริปโทฯ สูญเสียความเชื่อมั่นมากมายไม่ว่าจะเป็น Terra ล่มสลาย, 3AC กองทุนที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของโลกคริปโทฯ ล้มละลาย, แพลตฟอร์ม CeFi หลาย ๆ เจ้าประกาศระงับการถอน และล่าสุด FTX & Alameda Research ก็ล่มสลายตามไปอีก ทำให้นักลงทุนหลายคนได้สูญเสียเงินลงทุนและความเชื่อมั่นในการลงทุนคริปโทฯ เป็นจำนวนมาก แต่หากย้อนกลับมาดูที่พื้นฐานของคริปโทฯ จริง ๆ คือการกระจายอำนาจ (Decentralized) แล้วเราจะสังเกตได้ว่าในการลงทุนใน Decentralized Finance (DeFi) ยังคงมีการพัฒนาต่อไปอย่างต่อเนื่องในช่วงตลาดขาลงนี้ 

จากเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับแพลตฟอร์ม Centralized Finance (CeFi) ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ความผิดพลาดส่วนใหญ่มาจากความผิดพลาดในการบริหารของตัวกลางทั้งสิ้น 

ทำให้ในช่วงเวลาแบบนี้แพลตฟอร์ม DeFi มีการใช้งานที่สูงขึ้นตามมาด้วย ตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์ม Decentralized Exchange (DEX) อย่าง Uniswap ที่ภายในเดือนพฤศจิกายนที่มีเหตุการณ์ FTX ล่มสลาย Uniswap มี Trading Volume สูงถึง 3.4หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงที่เป็นตลาดขาลง 

ขอบคุณภาพจาก Defillama (ข้อมูลวันที่ 17 มีนาคม 2023)

ดังนั้นแพลตฟอร์ม Lending นั้นถือเป็นประเภทของ DeFi ที่น่าจับตามองถึงพัฒนาการอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีวิวัฒนาการต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมายเพื่อปิดจุดอ่อนบางอย่างที่ยังคงมีอยู่ อย่างเช่น Undercollateralized lending ที่ถูกพัฒนามาเพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับ Capital efficiency ของแพลตฟอร์มอย่าง Maple finance หรือ Gearboxprotocol เป็นต้น

โดยในประเทศของเราก็มีแพลตฟอร์ม Lending เจ้าแรก ที่มีชื่อว่า yestoken.digital ที่เพิ่งเปิดตัวไปในปี 2565 ที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งจะมีรายละเอียดเป็นอย่างไรบ้าง เราจะพาไปเจาะลึกกันในบทความนี้

yestoken.digital คืออะไร?

yestoken.digital ถือเป็นแพลตฟอร์ม Lending ในรูปแบบ DeFi แห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งโปรเจกต์ดังกล่าวถูกพัฒนาอยู่บน Bitkub Chain บล็อคเชนอันดับหนึ่งในไทย และยังมีทีมพาร์ทเนอร์ Development อย่าง Finstable ที่ซัพพอร์ตเบื้องหลังของโปรเจกต์ นอกจากนี้ยังมีเหรียญ YES Token เป็นโทเคนได้รับการรับรองโดย บิทคับ เชน (Verified by BitKub Chain) เป็น Governance Token บนแพลตฟอร์มอีกด้วย

สำหรับการใช้งานบนแพลตฟอร์ม ผู้ให้ยืม (Lender) และผู้ปล่อยยืม (Borrower) สามารถใช้งานบนแพลตฟอร์มได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน (KYC) ซึ่งจะสามารถยืมและปล่อยยืมสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง KUSDT, KUSDC, KKUB ได้ ผ่านการเชื่อมต่อกระป๋า Bitkub NEXT และ MetaMask (Bitkub Chain) 

Interest rates หรืออัตราดอกเบี้ยผู้ยืมจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ช่วงขึ้นอยู่กับ Utilization rate คือ: 

• อัตราดอกเบี้ยในช่วง Normal rate จะอยู่ที่ 0-5%
• อัตราดอกเบี้ยในช่วง Jump rate จะอยู่ที่ 6-32.25%

ข้อมูลวันที่ 27 มีนาคม 2023

จะเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยผู้ยืมไม่แพงเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นในช่วงเวลาปกติ (Normal rate) ที่มี Utilization rate ต่ำ ผู้ยืมจะเสียดอกเบี้ยการยืมสินทรัพย์ดิจิทัลแค่ 0-5% เท่านั้น โดยในตอนนี้ถ้าจะยืม KUSDT บนแพลตฟอร์ม yestoken.digital จะเสียดอกเบี้ยแค่ 0.05% เท่านั้น (ข้อมูลวันที่ 27 มีนาคม 2023) นอกจากนี้สำหรับผู้ที่มีสินทรัพย์ดิจิทัลที่ถือไว้เฉย ๆ ไม่ได้ทำอะไร ก็สามารถนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาปล่อยยืมบนแพลตฟอร์มได้เพื่อรับ Passive income ได้แบบง่ายๆ

การยึดสินทรัพย์ค้ำประกัน

ซึ่งการยืมสินทรัพย์ดิจิทัลก็มีความเสี่ยงที่ต้องระวังเหมือนกันกับแพลตฟอร์ม Lending อื่น ๆ นั่นก็คือการถูกยึดเหรียญค้ำประกันหรือ Liquidation ที่จะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อมูลค่าการยืมถึงจุดเสี่ยง โดยในปัจจุบันทางผู้ยืมสามารถยืมสินทรัพย์ได้ 75% ของมูลค่าสินทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งผู้ยืมจะต้องคอยตรวจสอบมูลค่าสินทรัพย์ค้ำประกันให้อยู่ในช่วงที่ปลอดภัยอยู่เสมอ อย่างไรก็ตามผู้ยืมสามารถคอยเช็คได้ง่าย ๆ จาก % Allocated Collateral ในหน้า Borrow/Repay บนแพลตฟอร์ม ไม่ให้ไปถึง 100% ที่จะเป็นจุดที่ถูก Liquidate นั่นเอง

ทำความรู้จักกับ Token ประจำแพลตฟอร์ม “YES Token”

เหรียญ YES Token มีจำนวน Total Supply ทั้งหมด 10,000,000 YES โดยเหรียญได้เปิดตัวไปตั้งแต่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ซึ่งมีการกระจายเหรียญดังนี้

1. 50% สำหรับการเปิดขายสาธาณะ (Public) ในตลาดรอง 
2. 25% ถูกเก็บไว้บน YES Vault เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ใช้งาน 
3. 25% จะถูกเก็บไว้สำหรับทีมงานสำหรับเป็นค่าพัฒนาต่าง ๆ

ความน่าสนใจของเหรียญ YES คือสามารถครอบครองเหรียญ YES โดยหาได้จากการซื้อของใช้ในชีวิตประจำวันผ่านทาง Ecosystem แพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง YES Official Store บนแพลตฟอร์ม Lazada ซึ่งนอกจากจะสามารถนำมาใช้เป็นสินทรัพย์ค้ำประกันในการยืมบน yestoken.digital แล้ว ยังสามารถสร้างโอกาสในการลงทุนในโลกดิจิทัลได้อีกด้วย นอกจากนี้ ทางทีมงานยังมีแผนว่าจะพัฒนาเหรียญ YES ให้เป็นเหรียญที่สามารถโหวตเพื่อกำหนดทิศทางของ Ecosystem ได้ในอนาคตต่อไปด้วย

วิธีการใช้งาน yestoken.digital

1. เชื่อมต่อกระเป๋า: กด “Connect Wallet” ที่มุมขวาบน โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้งานกระเป๋า BITKUB NEXT หรือ MetaMask ก็ได้ โดยในตัวอย่างที่นี้จะเชื่อมกับ BITKUB NEXT เพื่อต่อกับ Bitkub chain โดยตรงเลยก็สะดวกดี

2. การแลกเปลี่ยนเหรียญ: ไปที่หน้า “Trade” เพื่อแลกเปลี่ยนเป็นเหรียญอื่นๆในการใช้งานบนแพลตฟอร์มได้ เช่น YES, KKUB, KUSDT 

3. การฝากสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อปล่อยกู้: ไปที่หน้า “Deposit/Withdraw” และคลิกเหรียญที่ต้องการฝาก ในที่นี้จะลองฝากเหรียญ KUSDT จำนวน 5 KUSDT เมื่อทำการตรวจสอบประเภทเหรียญและจำนวนการฝากเรียบร้อยแล้วก็กดที่ “Deposit” เพื่อดำเนินการฝากได้เลย

4. การถอนสินทรัพย์ดิจิทัลที่ปล่อยกู้: ผู้ใช้งานจะถอนเหรียญที่ปล่อยยืมตอนไหนก็ได้ โดยในหน้าเดิมที่ “Deposit/Withdraw” ให้กดไปที่ “Withdraw” และคลิกเลือกเหรียญที่ต้องการถอน ซึ่งในที่นี้คือเหรียญ KUSDT โดยเราสามารถป้อนจำนวนเงินที่ต้องการถอนเพื่อถอนบางส่วนหรือหรือคลิก “Max” เพื่อถอนจำนวนเงินทั้งหมด จากนั้นให้กดปุ่ม “Withdraw” เพื่อทำการยืนยันธุรกรรมต่อไป

5. การเพิ่มสินทรัพย์ค้ำประกันสำหรับยืมสินทรัพย์ดิจิทัล: สำหรับ V.2 เมื่อไปที่หน้า “Deposit/Withdraw” เราสามารถกดเลือกเหรียญที่ฝากให้ใช้เป็น Collateral ได้ โดยกดปุ่ม “Enable Collateral” ที่เหรียญที่เราต้องการ ในที่นี่ลองกดเลือก Enable Collateral สำหรับเหรียญ YES และ KUSDT ซึ่งพอเลือกแล้วจะขึ้นเป็นสีเขียวตามรูปด้านบน 

6. การยืมสินทรัพย์: โดยใน Step ก่อนหน้าเราได้ฝากเหรียญ KUSDT เพื่อเป็น Collateral ไว้แล้วจำนวน 5 KUSDT หลังจากนั้นให้กดไปที่หน้า “Borrow/Repay” และทำการเลือกเหรียญที่ต้องการยืม ในที่นี้เราจะลองยืมเหรียญ KKUB โดยจะทำการยืมที่จำนวนสูงสุดโดยกด “Max” จะยืมได้จำนวน 1.75 KKUB (คิดเป็นประมาณ 75% ของมูลค่าของ Collateral) เมื่อตรวจสอบตัวเลขดีแล้วให้กด “Borrow” ได้เลย

7. การตรวจสอบสถานะการยืม: เมื่อเราทำการยืมไปแล้ว เราสามารถมาตรวจสอบสถานะการยืมของเราได้ที่หน้า “Borrow/Repay” ตามภาพด้านบน หน้านี้จะแสดงให้เห็นว่าสินทรัพย์ค้ำประกันหรือ Collateral ที่เราฝากไปมีมูลค่าเท่าไหร่ และเรายืมไปเท่าไหร่ ในตัวอย่างคือ Collateral value เท่ากับ 128 บาท ส่วนมูลค่าการยืมเท่ากับ 102 บาท ซึ่งทำให้ % Allocated Collateral อยู่ที่ 79.75% ซึ่งผู้ยืมจะต้องคอยตรวจสอบแถบสีส้มไม่ให้ขึ้นไปแตะ 100% เพราะสินทรัพย์ค้ำประกันจะถูก Liquidate ได้ 

8. การคืนสินทรัพย์ดิจิทัล: เมื่อต้องการคืนสินทรัพย์ที่ยืม ให้ไปที่ “Repay” โดยสามารถเลือกคืนแค่บางส่วนหรือคืนทั้งหมด โดยกด “Max” ก็ได้ โดยในที่นี้จะทำการคืนเหรียญ KKUB ที่ยืมไปทั้งหมด และกด “Repay”

yestoken.digital V.2

พออ่านมาถึงตรงนี้หลาย ๆ คนที่คุ้นเคยกับการใช้งานแพลตฟอร์ม Lending ก็อาจจะมีความกังวลเพราะการใช้เหรียญที่มีความผันผวนในด้านราคามากนั้นก็ทำให้เกิดความเสี่ยงในการถูก Liquidate ที่มากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งทางทีมงาน YES ก็น่าจะเล็งเห็นความกังวลของผู้ใช้งานในเรื่องนี้ ดังนั้น เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2022 ที่ผ่านมา ทางแพลตฟอร์มก็เพิ่งได้ประกาศเปิดตัว yestoken.digital V.2 โดยใน V.2 นี้ทางแพลตฟอร์มได้เพิ่มเหรียญอื่นที่สามารถใช้เป็นสินทรัพย์ค้ำประกันเพิ่มมาจากเหรียญ YES อย่างเช่น เหรียญ KUB, KKUB และมีเหรียญ Stablecoin เป็นทางเลือกให้ด้วย อย่าง KUSDT, KUSDC อีกด้วย

วิธีการซื้อเหรียญ YES

สำหรับผู้ที่สนใจอยากครอบครองเหรียญ YES ก็มีหลายวิธีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการ Trade ผ่าน DEX อย่าง diamon.finance  หรือผู้ที่ซื้อสินค้าจาก YES Official Store บน Lazada ก็มีสิทธิ์ได้รับโบนัสเหรียญ YES ได้เช่นกัน

ส่วนใครที่ไม่ได้เข้าเงื่อนไขที่จะได้รับ Airdrop หรือโบนัส ก็สามารถซื้อเหรียญ YES ได้ผ่านทางแพลตฟอร์ม yestoken.digital หรือ diamon.finance โดยมีวิธีการดังนี้

1. ติดตั้ง MetaMask wallet และติดตั้งเครือข่าย Bitkub Chain หรือติดตั้ง Bitkub NEXT 
2. ซื้อเหรียญ KUB บน Bitkub exchange
3. ถอนเหรียญ KUB เข้ากระเป๋า MetaMask
4. เข้าไปยัง https://app.diamon.finance/#/swap แล้วกดปุ่ม Connect ที่มุมบนขวาของหน้าจอ 

5. เลือกกระเป๋า MetaMask

6. ทำการเลือกเหรียญที่จะแลก โดยให้เหรียญต้นทางเป็นเหรียญ KUB และเหรียญปลายทางเป็นเหรียญ YES จากนั้นกรอกจำนวนเหรียญที่ต้องการแลก

7. คลิกที่ปุ่ม Swap และ Confirm swap จากนั้น MetaMask จะแสดงหน้าต่างให้ยืนยันการทำธุรกรรม

8. เมื่อทำการซื้อเหรียญสำเร็จ จะแสดงหน้าต่าง ดังต่อไปนี้

9. สามารถตรวจสอบจำนวนเหรียญ YES ที่มีในกระเป๋าได้โดยการคลิกที่ไอคอนเหรียญ YES บนหน้าเว็บ Diamon.finance ซึ่งจะทำให้เหรียญ YES แสดงอยู่ในกระเป๋า MetaMask

10. เมื่อเปิด MetaMask ก็จะเห็นเหรียญ YES แสดงอยู่ในกระเป๋า

Partners

ซึ่งนอกจากนี้ทาง yestoken.digital ก็ได้ประกาศความร่วมมือกับอีกหลาย ๆ บริษัทชั้นนำ เพื่อขยายช่องทางการเข้าถึงเหรียญ YES ให้กับลูกค้าได้มากขึ้น ซึ่งคาดว่าน่าจะทำให้แพลตฟอร์ม yestoken.digital เติบโตไปได้ในอนาคต โดยในปัจจุบันทาง YES ได้เป็นพาร์ทเนอร์กับ Wirtual, Buzzebees, Ocean Life, Finstable และ Lazada 

ยกตัวอย่างการที่ YES พาร์ทเนอร์กับ Buzzebees ซึ่งเป็นผู้นำในการออกแบบและพัฒนาแพลตฟอร์มด้าน CRM Privilege & Loyalty Program ที่เปิดให้ลูกค้าและร้านค้าที่อยู่ภายใต้ระบบของ Buzzebees กว่า 130 ล้านบัญชี สามารถแลกคะแนนเป็น YES Token ได้

อย่างล่าสุดทาง Ocean Life หรือบมจ.ไทยสมุทรประกันชีวิตก็เพิ่งประกาศความร่วมมือกับ Buzzebees ไปในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2023 ที่ผ่านมานั้น ซึ่งทำให้ลูกค้าของ Ocean Life สามารถเปลี่ยนคะแนนสะสมเป็นเหรียญ YES Token ได้เช่นกัน 

https://www.lazada.co.th/shop/yes1234/?path=index.htm

หรืออย่างการที่ YES ได้ทำการพาร์ทเนอร์กับ Lazada ก็ทำให้ลูกค้าสามารถซื้อของในช็อป YES Official Store เพื่อรับเหรียญ YES ได้ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อซื้อหูฟังบลูทูธ JBL ในราคา 3,070 บาทก็จะได้รับเหรียญ YES จำนวน 15 เหรียญกลับมา

จุดเด่นของ yestoken.digital

จุดเด่นหลักของ yestoken.digital ก็คือการที่ผู้ใช้งานสามารถหาโอกาสในด้านผลตอบแทนที่หลากหลายและยืดหยุ่นไม่ว่าจะเป็นการซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ได้รับ Token เป็น Incentives หรือการปล่อยยืมบนแพลตฟอร์มเพื่อรับผลตอบแทนในขณะเดียวกันก็จะคงความได้เปรียบในแง่ของอัตราดอกเบี้ยที่ถูกสำหรับการยืมสินทรัพย์ดิจิทัล

ส่วนในแง่การใช้งานด้านแพลตฟอร์มก็ใช้งานง่าย เพียงแค่มีกระเป๋า Bitkub NEXT หรือ MetaMask ที่เพิ่ม Bitkub Chain เรียบร้อยแล้ว การสามารถเริ่มใช้งานได้เลย ซึ่งผู้ใช้งานสามารถฝากถอน/ยืมคืน เมื่อไหร่ก็ได้โดยไม่มีระยะเวลาที่ถูกล็อค ส่วนดอกเบี้ยกู้ก็ถือว่าถูกมาก โดยตอนนี้ดอกเบี้ยกู้เหรียญอย่าง KUSDC อยู่ที่ 0.9% เท่านั้น (ข้อมูลวันที่ 19 มีนาคม 2023)

นอกจากจุดเด่นดังกล่าวแล้ว ทาง YES Token ยังได้รับการรับรองจาก Bitkub Chain โดยสร้างบน Bitkub Blockchain ที่ถือว่ามีความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยค่อนข้างสูงเพราะเป็นเชนที่เปิดมานานและได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย 

สุดท้ายอีกจุดเด่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือการมีพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่น่าสนใจ อย่างเช่น Wirtual, Buzzebees, Ocean Life, Finstable และ Lazada ที่เป็นการสร้างโอกาสทำให้ yestoken.digital สามารถมีฐานลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น จึงทำให้แพลตฟอร์มมีศักยภาพในการเติบโตได้สูงตามไปด้วยนั่นเอง 

สรุป

หลังจากที่ปี 2022 ที่ผ่านมาถึงแม้จะเป็นช่วงตลาดหมี จะเห็นได้ว่าการลงทุนใน Decentralized Finance (DeFi) ยังคงมีการพัฒนาและมีการใช้งานต่อไปอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแพลตฟอร์ม Lending ก็ถือเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่มีการใช้งานสูงเป็นอันดับต้น ๆ ดังนั้นแพลตฟอร์ม Lending นั้นถือเป็นประเภทของ DeFi ที่น่าจับตามองในการลงทุนอย่างมาก 

สำหรับใครที่สนใจแพลตฟอร์ม yestoken.digital สามารถติดตามข่าวสารได้ทาง Facebook: YES Token หรือ พูดคุยผ่าน Community Line Open Chat : https://bit.ly/3NBPbQu