Metamask แอพกระเป๋าเงิน Web3 ได้เปิดตัวคุณสมบัติใหม่หลายอย่างที่มุ่งเพิ่มความเป็นส่วนตัว และให้ผู้ใช้ควบคุมได้มากขึ้น ตามบล็อกโพสต์เมื่อวันที่ 14 มีนาคม โดยฟีเจอร์ใหม่นี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Metamask ถูกวิจารณ์ก่อนหน้านี้ว่าละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้
ก่อนหน้านี้ Metamask ใช้โหนด Infura RPC เพื่อเชื่อมต่อกับ Ethereum โดยอัตโนมัติเมื่อใดก็ตามที่ผู้ใช้ตั้งค่ากระเป๋าสตางค์เป็นครั้งแรก แม้ว่าผู้ใช้จะสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าได้ในภายหลัง แต่ก็ยังหมายความว่าที่อยู่สาธารณะของผู้ใช้ถูกส่งไปยัง Infura ก่อนที่พวกเขาจะมีโอกาสเปลี่ยนโหนด ตามรายงานจาก Chase Wright ผู้ดำเนินการโหนด Ethereum
โดย Infura เป็นเจ้าของโดย Consensys ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Metamask
ขณะที่ในส่วนของเวอร์ชันใหม่ “10.25.0” ผู้ใช้จะได้รับแจ้งพร้อมตัวเลือกให้ใช้ “advanced configuration” ในระหว่าง setup ซึ่งการเลือกตัวเลือกนี้จะเพิ่มการตั้งค่าอีกจำนวนหนึ่ง รวมถึงการเลือกโหนด RPC ที่แตกต่างจาก Infura ที่เป็นค่าเริ่มต้น
ใน “advanced configuration” ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถ turn off ธุรกรรมที่เข้ามา , การตรวจจับฟิชชิ่ง , และ enhanced token detection โดยคุณลักษณะเหล่านี้จำเป็นต้องส่งข้อมูลไปยังบุคคลที่สาม เช่น Etherscan และ jsDeliver ตาม UI ของแอป ซึ่งผู้ใช้ที่กังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวสามารถปิดคุณสมบัติเหล่านี้ได้ระหว่างการตั้งค่าได้แล้วหากต้องการ
Metamask เวอร์ชันมือถือยังมีการปรับปรุงความเป็นส่วนตัว โดยก่อนหน้านี้ แอปไม่อนุญาตให้ผู้ใช้เชื่อมต่อบัญชีหนึ่งกับแอป Web3 ในขณะที่ปล่อยให้อีกบัญชีหนึ่งถูกตัดการเชื่อมต่อ โดยผู้ใช้มีเพียงตัวเลือกในการเชื่อมต่อทั้งหมดหรือไม่เชื่อมต่อเลย
อย่างไรก็ตาม ในเวอร์ชันใหม่ ผู้ใช้สามารถเลือกบัญชีที่ต้องการเชื่อมต่อกับแอปได้ โดยไม่ต้องเปิดเผยที่อยู่อื่น ๆ ที่ตนควบคุม
Metamask ระบุว่า ตั้งใจที่จะรักษาความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้ใช้เสมอ และเชื่อว่าฟีเจอร์ใหม่เหล่านี้สอดคล้องกับค่าเหล่านี้
อ้างอิง : LINK
