Merkle Capital เปิดตัวกลยุทธ์การลงทุนใหม่ M-Next เน้นลงทุนในโทเค็น Web 3

บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด ในเครือ คริปโตมายด์ กรุ๊ป เปิดตัวกลยุทธ์ M-Next Generation เป็นกลยุทธ์การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลแบบเต็มอัตราที่เน้นการลงทุนในโทเคนดิจิทัลชั้นนำในกลุ่มอุตสาหกรรมที่โอกาสเติบโตสูงในภาคของ Web 3.0  คริปโตมายด์ กรุ๊ป มีความมุ่งหวังอยากให้นักลงทุนทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล

โดยสามารถเริ่มลงทุนขั้นต่ำที่ 10,000 บาท อีกทั้งยังคงมุ่งมั่นคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆให้กับนักลงทุนของเราอย่างต่อเนื่อง โดยกลยุทธ์ M-Next Generation จะมีการเสนอขายกลยุทธ์ครั้งแรกระหว่างวันที่ 23-27 กุมภาพันธ์นี้ และจะเริ่มบริหารจัดการสินทรัพย์อย่างเป็นทางการในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 

นายอัครเดช เดี่ยวพานิช ประธานกรรมการ คริปโตมายด์ กรุ๊ป และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เมอร์เคิล แคปปิตอล กล่าวว่า ทุกวันนี้เทรนด์การลงทุนในโลกคริปโทมีวิธีที่หลากหลายมากขึ้นและเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมาก เช่น  Liquid staking derivatives, Layer 2 หรือแม้แต่ AI ซึ่งถ้าหากเราไม่ได้มีการติดตามอย่างใกล้ชิด ก็จะทำให้เราพลาดโอกาสในการลงทุนได้

ด้วยความที่ เมอร์เคิล แคปปิตอล เราเป็นผู้เชี่ยวชาญในตลาดนี้และมีทีมงานคอยติดตามเทรนด์ตลาดอย่างสม่ำเสมอ เราได้คิดกลยุทธ์ใหม่ภายใต้ชื่อ M-Next Generation เป็นกลยุทธ์การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลแบบเต็มอัตรา ที่เน้นการลงทุนในโทเคนดิจิทัลชั้นนำในกลุ่มอุตสาหกรรมที่โอกาสเติบโตสูงในภาคของ Web 3.0 เพื่อเป็นทางเลือกและอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนที่สนใจในตลาดนี้แต่ไม่ได้มีเวลาติดตามตลาดมากนักหรือไม่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้มากพอ เพื่อที่จะไม่พลาดโอกาสการลงทุนในเทรนด์ใหม่ๆที่มีโอกาสเติบโตสูง

โดยกลยุทธ์ M-Next Generation เป็นกลยุทธ์ที่เราจะเน้นลงทุนในกลุ่มโทเคนดิจิทัลซึ่งมี Market cap ระดับปานกลาง ในกลุ่ม DeFi, Web 3 service และ Metaverse Project ต่างๆ ที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์ใหม่ๆ และมี Upside ผลตอบแทนที่สูงในระยะสั้นถึงกลาง

“กลยุทธ์นี้จะแตกต่างกับกลยุทธ์อื่น ที่เราเน้นลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะมี market cap ที่สูงทำให้ Upside อาจจะไม่สูงเท่าโทเคนดิจิทัล โดยนักลงทุนสามารถลงทุนได้อย่างปลอดภัยภายใต้การบริหารและการจัดการความเสี่ยงของทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเรา” นายอัครเดช กล่าวเสริม

ทั้งนี้ กว่าจะมาเป็น Web 3.0 เริ่มแรกคือยุคของ  Web 1.0 ที่ทุกคนสามารถเข้ามาอ่านหรือเขียนเท่านั้น ข้อมูลของผู้ใช้งานจะไม่ถูกบันทึก ตัวอย่างของ Web1 ได้แก่ Yahoo, Sanook, Java ต่อมาในยุค Web 2.0 เป็นยุคที่เริ่มมีการเก็บข้อมูลของผู้ใช้งานมากขึ้น โดยที่ผู้ใช้งานสามารถทำได้กิจกรรมได้มากกว่าการอ่าน ดู หรือเขียน สามารถสร้างเนื้อหาได้เองผ่านช่องทางต่างๆ กล่าวคือผู้ใช้งานสามารถโต้ตอบกับแพลตฟอร์มได้มากขึ้น เช่น สามารถกดปุ่ม like เพื่อแสดงความต้องการของผู้ใช้งานว่าชอบอะไร หรือสนใจอะไร คอนเทนต์แนวไหน

ตัวอย่างของ Web2 เช่น Google, Facebook, Twitter, Tiktok โดยผู้ใช้งานในยุคนี้จะเป็นการให้ข้อมูลตัวเองกับ platform Web2 เพียงฝ่ายเดียวผ่านการลงทะเบียนต่างๆโดยจะต้องให้ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานเอง ถือเป็นยุคที่ข้อมูลนั้นมีความสำคัญมากเลยทีเดียว

การก้าวสู่ Web 3.0 จะเป็นยุคที่ผู้ใช้สามารถเป็นเจ้าของข้อมูลได้ กล่าวคือผู้ใช้งานสามารถอ่าน สร้าง และปฏิบัติการแบบกระจายศูนย์ผ่านเทคโนโลยีบล็อคเชนเป็นหลัก โดยยุคนี้ได้เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาโดยที่กรรมสิทธิ์ของข้อมูลผู้ใช้งานจะกลับไปที่ผู้ใช้งานมากขึ้นผ่านการควบคุมต่างๆได้ด้วยตัวเอง มิใช่ตัวกลางอีกต่อไป โดยเหตุนี้ทาง Merkle Capital จึงพิจารณาเปิดตัวกลยุทธ์การลงทุนใหม่อย่าง M-Next ที่เน้นลงทุนในโทเค็นในธีม Web 3 เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้เข้าถึงเทรนด์การลงทุนได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น

กลยุทธ์ M-Next Generation เปิดให้นักลงทุนสามารถลงทุนแล้วใน https://merkle.capital/ โดยลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามกลยุทธ์การลงทุนเพิ่มเติมได้ที่ LINE Official @merkle.capital และอีเมล์ admin@merkle.capital

การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ผู้สนใจควรศึกษาข้อมูลและประเมินความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

ที่มา: ไลฟ์รายการ Merkle insight วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 20.00 น.

Share on facebook
Share on twitter
Share on linkedin

wissarut

ข่าวต่อไป

FOLLOW ME

Blockchain Life 2024

Crypto Coffee

Cryptomind Research Talk

CryptOmakase

ข่าวต่อไป