Digital Currency Group (DCG) บริษัทแม่ของ Genesis Capital ปฏิเสธความเกี่ยวข้องในการยื่นล้มละลายของ Genesis ในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 20 มกราคม โดย DCG ระบุว่าคณะกรรมการพิเศษของกรรมการอิสระเป็นผู้แนะนำและตัดสินใจยื่นขอความคุ้มครองการล้มละลายในบทที่ 11
การยื่นขอบทที่ 11 จะทำให้ Genesis สามารถเริ่มการปรับโครงสร้างหนี้ , สินทรัพย์ , และกิจกรรมทางธุรกิจอื่น ๆ โดยบริษัทประมาณการหนี้สินไว้ที่ 1 พันล้านดอลลาร์ถึง 10 พันล้านดอลลาร์ พร้อมด้วยสินทรัพย์ในช่วงมูลค่าเดียวกัน
DCG ระบุไว้ในแถลงการณ์ว่า: “Genesis มีทีมผู้บริหารอิสระ , ที่ปรึกษากฎหมาย , และที่ปรึกษาทางการเงินของตนเอง และแต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษของกรรมการอิสระ ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบการปรับโครงสร้าง Genesis Capital และเป็นผู้แนะนำและตัดสินใจว่า Genesis Capital ในการยื่นบทที่ 11 ซึงทั้ง DCG และพนักงานคนใดของบริษัท รวมถึงผู้ที่ดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการบริหารของ Genesis ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจการยื่นล้มละลาย”
มีแค่เฉพาะหน่วยงานที่ให้กู้ยืมของ Genesis (Genesis Global Holdco, Genesis Global Capital และ Genesis Asia Pacific – เรียกรวมกันว่า “Genesis Capital”) ได้ยื่นขอความคุ้มครองการล้มละลาย ส่วน Genesis Global Trading และตลาดซื้อขายสปอตและ derivatives ของ Genesis จะยังคงดำเนินการอยู่
DCG กล่าวว่า บริษัทตั้งใจที่จะดำเนินงานต่อไปตามปกติ ตามแถลงการณ์พร้อมกับบริษัทสาขาอื่น ๆ ซึ่งรวมถึง Grayscale Investments, Foundry Digital, Lino Group Holdings, CoinDesk และ TradeBlock Corporation
ในจดหมายที่ส่งถึงผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 17 มกราคม DCG ยืนยันว่าเป็นหนี้ “526 ล้านดอลลาร์ที่จะครบกำหนดในเดือนพฤษภาคม 2023 และ 1.1 พันล้านดอลลาร์ภายใต้ตั๋วสัญญาใช้เงิน (P/N) ที่จะครบกำหนดในเดือนมิถุนายน 2032” โดยบริษัทตั้งใจที่จะปฏิบัติตามข้อผูกพันที่มีต่อ Genesis Capital ในระหว่างการปรับโครงสร้าง และจดหมายยังประกาศหยุดการจ่ายเงินปันผลรายไตรมาสเพื่อรักษาสภาพคล่อง