อดีต CEO ของ FTX Sam Bankman-Fried (SBF) ปรากฏตัวต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกในงาน DealBook Summit ในนิวยอร์ก และได้พูดเกี่ยวกับการล่มสลายและการล้มละลายของ FTX
อดีตมหาเศรษฐีปกป้องตัวเองจากข้อกล่าวหาเรื่องการฉ้อโกง และอ้างว่าปัญหาของ FTX เกิดจากข้อผิดพลาดทางบัญชี
ผู้สัมภาษณ์ของ Bankman-Fried เริ่มต้นด้วยการถามอดีต CEO ว่า FTX ล้มเหลวจากความผิดพลาดทางบัญชีจริงหรือไม่ (ตามที่ SBF กล่าวอ้างบน Twitter) หรือว่าเขาได้ทำ “การฉ้อโกงครั้งใหญ่”
“ผมไม่เคยพยายามหลอกลวงใคร” เขากล่าว “ผมรู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเดือนนี้”
Sorkin อ่านจดหมายจากอดีตลูกค้า FTX โดยอ้างว่าเขาสูญเสียเงินออมไป 2 ล้านดอลลาร์จาก FTX ที่ปิดตัวไปแล้ว เช่นเดียวกับหลาย ๆ คน โดยลูกค้าสงสัยว่า FTX เอาเงินของลูกค่าไปให้กับ Alameda Research ที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ FTX และ Bankman-Fried
Bankman-Fried อธิบายว่า Alameda Research มี open leverage มากกว่าที่เขารู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้โทเค็น FTT เป็นหลักประกัน
เมื่อถูกถามว่า ถ้าไม่ใช่เงินของลูกค้า แล้ว FTX เอาเงินจากที่ไหนมาให้ Alameda ยืมในตอนแรก Bankman-Fried อ้างว่าเขา “ไม่รู้ที่มาของเงินกองทุน” แต่เขาชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวในการกำกับดูแลในส่วนของเขากับ Alameda
Sorkin ยังอ้างอิงรายงานของ Wall Street Journal ที่อ้างว่า Carloine Elison ซีอีโอของ Alameda ใช้เงินของลูกค้า FTX เพื่อปกป้องการโดน Margin Call และ Gary Wang หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมของ Bankman-Fried และ FTX ก็รับรู้ นอกจากนี้ยังมีการสร้าง “backdoor” ใน FTX ทำให้ Bankman-Fried สามารถแก้ไขบันทึกทางการเงินของบริษัทเพื่อจุดประสงค์นี้ได้
SBF ไม่ได้ตอบคำถามโดยตรง แต่อ้างถึงความคลาดเคลื่อนอีกครั้งระหว่างการเงินที่ตรวจสอบแล้วของ FTX และ “dashboard display” ของตำแหน่งเลเวอเรจของ Alameda
เขายังแย้งด้วยว่า FTX และ Alameda ได้ลดความสัมพันธ์ลงตั้งแต่ปี 2019 โดยที่ FTX และ Alameda มีสัดส่วนเพียง 2% ภายในปี 2022
และแม้ว่า FTX จะประสบกับปัญหา แต่ Bankman-Fried ยืนยันว่า FTX US ไม่ได้ล้มละลาย “ผมเชื่อว่าการถอนเงินของ FTX US จะสามารถเปิดได้ในวันนี้” เขากล่าว
อ้างอิง : LINK
