NTT Docomo ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือของญี่ปุ่น วางแผนที่จะลงทุนสูงถึง 600 พันล้านเยน (4.1 พันล้านดอลลาร์) เพื่อมุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยี web3 ตามที่บริษัทกล่าวในรายงานผลประกอบการไตรมาสสอง
NTT Docomo คาดว่าจะลงทุนระหว่าง 500-600 พันล้านเยนใน web3 ในช่วงห้าถึงหกปี ตามการนำเสนอผลประกอบการสำหรับปีงบประมาณ 2022 ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 31 มีนาคม โดยผู้ให้บริการมือถือเปิดเผยว่ามีแผนจะจัดตั้งองค์กร web3 ในปี 2023 โดยระบุหน้าที่หลักสี่ประการได้แก่ : กระเป๋าเงินบล็อกเชน , เว็บเทรดสินทรัพย์ crypto , การออกโทเค็น , และ security
Nikkei Asia ได้รายงานถึงแผนการของ NTT Docomo โดยรวมถึงขนาดของการลงทุนที่วางแผนไว้ ซึ่ง NTT Docomo จะเปิดตัวบริการ web3 หลังจากพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถรองรับกระเป๋าเงินและ cryptocurrencies ได้
NTT Docomo ยังวางแผนที่จะพัฒนาเทคโนโลยี web3 กับหน่วยงานอื่นอีกสองแห่ง ได้แก่ Accenture ยักษ์ใหญ่ด้านบริการระดับมืออาชีพและ Astar แพลตฟอร์ม multi-chain smart contract
การเป็นหุ้นส่วนกับ Accenture จะมุ่งเน้นไปที่การนำเทคโนโลยี web3 มาใช้ในสามด้านหลัก ๆ ได้แก่ : การพัฒนากรณีศึกษาที่เน้นทางด้านแนวคิดการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน” (Environmental, Social, Governance: ESG) การจัดหลักสูตรฝึกอบรม web3 และการพัฒนา “แพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่ปลอดภัย” สำหรับ Web 3
“Docomo ร่วมมือกับ Accenture เพื่อปฏิวัติโครงสร้างพื้นฐานทางสังคมโดยใช้ blockchain และสร้างสภาพแวดล้อม Web3 ที่ปลอดภัย” Motoyuki Ii ซีอีโอของ Docomo กล่าวในแถลงการณ์ “เราจะสร้างสภาพแวดล้อมที่พลังของครีเอเตอร์และนักพัฒนาสามารถมารวมกันได้”
NTT Docomo เป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยให้บริการสมาชิกมากกว่า 84 ล้านราย