Core Scientific บริษัทขุด Bitcoin ชื่อดังได้ออกมาเผยเกี่ยวกับสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทที่อาจทำให้นักลงทุนและผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทต้องเครียดหนักหลังจากที่บริษัทได้มีการยื่นคำร้องขอต่อ SEC ว่าบริษัทอาจไม่มีเงินทุนแล้วในสิ้นปีนี้และต้องการยื่นขอล้มละลาย
สาเหตุที่ Core Scientific ขาดสภาพคล่อง
Core Scientific ได้ออกมาชี้แจงเหตุผลที่ทำให้บริษัทขาดสภาพคล่องและไม่สามารถชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ได้เอาไว้ว่า:
“สภาพคล่องและผลกำไรของบริษัทได้รับกระทบจากราคา Bitcoin ที่ลดลงอย่างต่อเนื่องและต้นทุนค่าไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้นรวมถึง Hash Rate ของ Bitcoin ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก”
จากเหตุผลดังกล่าวทำให้บริษัทได้พักการชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้หลายเดือน เพื่อพยายามลดค่าใช้จ่ายและต้นทุนที่ต้องใช้ต่อเดือน
หลังจากที่เกิดข่าวนี้ออกมาทำให้หุ้นของบริษัทร่วงแรง โดยลดลงกว่า 80% จากที่ราคา $1.08 มาสู่ $0.22 ทั้งที่บริษัทนั้นเพิ่งได้ลิสต์ขึ้นตลาดหุ้นหลังจากที่ได้ควบกิจการเข้ากับบริษัท Power & Digital Infrastructure Acquisition Corp
บริษัทถูกสืบเรื่องฉ้อโกง
บริษัทกฎหมายในลอสแองเจลิส Portnoy Law Firm ได้เริ่มตรวจสอบบริษัท Core Scientific เกี่ยวกับการฉ้อโกงหลักทรัพย์ และคาดว่าอาจจะมีการยื่นฟ้องนักขุดด้วย พร้อมกับให้นักลงทุนมาติดต่อ Portnoy Law Firm
รายงานจาก Culper Research กล่าวหาว่าบริษัท Core Scientific ได้มีการขายบริการเกี่ยวกับการขุดคริปโตในราคาที่สูงเกินไปและได้ทำธุรกรรมหลายรายการที่น่าสงสัยก่อนที่จะทำการทุ่มตลาดผ่านบริษัท SPAC
อนาคตจะเป็นอย่างไรต่อ?
แม้ว่าบริษัทกำลังยื่นขอล้มละลายและอาจถูกฟ้อง Core Scientific ก็ตั้งใจที่จะประกอบกิจการต่อไปพร้อมหาทางที่จะปรับปรุงโครงสร้างบริษัทขึ้นมาใหม่ ซึ่งบริษัทก็ได้ว่าจ้าง PJT Partners LP ซึ่งเป็นบริษัทให้คำแนะนำทางการเงินและ Weil, Gotshal & Manges LLP ซึ่งเป็นบริษัทกฎหมายมารับหน้าที่ตรงนี้
Core Scientific เผยว่าบริษัทอาจมีภาระหนี้สินเพิ่มเติมจากหุ้นสามัญของบริษัท การจัดหาเงินทุนหรือตราสารหนี้และการขายสินทรัพย์ที่อาจเกิดขึ้น
ที่มา : LINK