ปัญหาด้านพลังงานในอเมริกาเหนือและยุโรปและสภาวะตลาดที่เกิดขึ้น กำลังส่ลผลกระทบกับนักขุด Bitcoin อีกไตรมาส ในทั้งสองทวีป
ตามรายงานการขุดในไตรมาสที่สามล่าสุดจาก Hashrate Index ได้เน้นถึงปัจจัยหลายประการที่ทำให้ราคา hash ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และต้นทุนการผลิตต่อ 1 BTC ที่สูงขึ้น
ราคา hash คือการวัดที่อุตสาหกรรมใช้เพื่อกำหนดมูลค่าตลาดต่อหน่วยของกำลังขุด ซึ่งวัดจากการหารเงินดอลลาร์ต่อเทราแฮชต่อวินาทีต่อวัน และได้รับอิทธิพลจากความยากในการขุด และราคาของ BTC ที่เปลี่ยนแปลงไป
ตามรายงานของ Hashrate Index ราคา hash ของ Bitcoin มีสัญญาณที่ดีขึ้นในช่วงกลางของไตรมาสที่ 3 เนื่องจากคลื่นความร้อนในช่วงฤดูร้อนของอเมริกาทำให้อัตรา hash rate ลดลง ซึ่งสอดคล้องกับการฟื้นตัวของราคา BTC เล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม ราคาของ Bitcoin ลดลงต่ำกว่า 20,000 ดอลลาร์อีกครั้ง และอัตรา hash rate ก็ไต่ขึ้นสู่ระดับสูงสุดใหม่ตลอดกาลในเดือนกันยายน ส่งผลให้ราคา hash ร่วงลงใกล้ระดับต่ำสุดตลอดกาล
อัตรากำไรของเหมืองขุด ยังถูกคุกคามจากต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้นในอเมริกาเหนือและยุโรป หลังได้รับผลกระทบหนักเป็นพิเศษจาก “นโยบายพลังงานหมุนเวียนที่มีการจัดการที่ผิดพลาด ภายใต้การลงทุนด้านน้ำมันและก๊าซ , การรื้อถอนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ , และการทำสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน” ซึ่งทำให้ราคาพลังงานพุ่งขึ้นสูง
เหมืองขุดของชาวอเมริกันต้องต่อสู้กับต้นทุนเฉลี่ยของไฟฟ้าอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น 25% จาก 75.20 ดอลลาร์ต่อเมกะวัตต์ชั่วโมงเป็น 94.30 ดอลลาร์ต่อเมกะวัตต์ชั่วโมง ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2021 ถึงกรกฎาคม 2022 และสิ่งนี้ยังส่งผลกระทบต่อผู้ให้บริการโฮสติ้งที่กำลังขึ้นราคาพลังงานในสัญญาโฮสติ้ง
เนื่องจากราคา hash ลดลง ทำให้เหมืองขุดบางรายที่มีอุปกรณ์ระดับกลางกำลังเผชิญหน้ากับส่วนต่างของต้นทุน โดยในอดีต นักขุดรายย่อยมักจะขายเครื่องขุดที่ไม่ทำกำไรให้กับการขุดอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม สิ่ง “ก็ชะลอตัวลงเรื่อย ๆ” ตลอดไตรมาสที่สาม และนักขุดก็มีการขาย BTC น้อยกว่าที่ขุดได้ในรายเดือนในเดือนสิงหาคมและกันยายนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม
Hashrate Index ยังเตือนด้วยว่า Q3 อาจเป็นจุดเริ่มต้นของช่วงเวลาที่ยากลำบากมากขึ้นสำหรับอุตสาหกรรมการขุด โดยอาจมีโอกาสที่จะประสบปัญหาเพิ่มเติมรวมถึง การล้มละลาย และการยอมจำนนของเหมืองขุดเมื่อสิ้นปีใกล้เข้ามา