Travel Rule คือกฎหมายป้องกันการฟอกเงินสำหรับสกุลเงินดิจิทัลทุกประเภทภายใต้การกำกับของ Financial Action Task Force (FATF) โดยผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลต้องรวบรวมข้อมูลของผู้ส่งและผู้รับในทุกธุรกรรม เพื่อให้สามารถตรวจสอบเส้นทางธุรกรรมได้อย่างโปร่งใสพร้อมสร้างความมั่นใจและปลอดภัยให้กับผู้ใช้งาน
ด้วยสาเหตุนี้ ‘VerifyVASP’ จึงได้ก้าวเข้ามามีบทบาทในฐานะผู้ให้บริการด้านการแก้ไขปัญหา (Solution provider) ให้สอดคล้องกับกฎหมาย Travel Rule
VerifyVASP บริษัทสนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (VASP – Virtual Asset Service Provider) ให้สอดคล้องกับกฎหมาย Travel Rule ซึ่งได้รับการลงทุนระดับกลยุทธ์จาก Chainalysis บริษัทชั้นนำด้านการวิเคราะห์เทคโนโลยีบล็อกเชน รวมถึงร่วมลงทุนโดยบริษัทชั้นนำอย่าง Peak Capital, Bcharu และ FTX Ventures (บริษัทกองทุนภายใต้การดูแลของ FTX) พร้อมด้วยพันธมิตรอีกกว่า 75 รายใน 24 ประเทศ เช่น Upbit, FTX, Coinbase, Crypto.com และ Huobi เป็นต้น
VerifyVASP ยังช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำธุรกรรมข้ามแต่ละ exchange ทั่วโลกที่เป็นพันธมิตรกันได้ เช่น โดยปกติผู้ใช้งานในประเทศเกาหลีใต้จะไม่สามารถโอนคริปโทฯ ข้ามประเทศมาที่ Exchange ไทยได้ แต่หาก Exchange ประเทศไทยนั้นเป็นพันธมิตรร่วมกับ VerifyVASP ก็จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถโอนคริปโทฯ จากประเทศเกาหลีใต้มาที่ประเทศไทยได้ทันที
ในปัจจุบันมีการทำธุรกรรมผ่านกระบวนการของ VerifyVASP มากกว่า 1.5 ล้านธุรกรรม คิดเป็นมูลค่า $40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.5 ล้านล้านบาท ส่งผลให้ VerifyVASP สามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับโลกด้านความปลอดภัยภายใต้กฎหมาย Travel Rule ได้อย่างสง่างาม
VerifyVASP ได้รับการระดมทุนช่วง Series A มากกว่า 190 ล้านบาทในช่วงที่ผ่านมาโดย Peak Capital, Bcharu และ FTX Ventures ส่งผลให้มูลค่ารวมของบริษัท ณ ปัจจุบันมีมูลค่ามากกว่า 3,500 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นการเริ่มต้นที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง ว่าก้าวต่อไปของ VerifyVASP จะเป็นอย่างไรในฐานะผู้นำด้านความปลอดภัยตามกฎหมาย Travel Rule ในระดับเวทีโลก