การเปลี่ยนผ่านของ Ethereum สู่กลไกฉันทามติแบบ Proof-of-Stake (PoS) ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2565 ส่งผลให้การทำธุรกรรมของเครือข่ายสามารถประมวลผลได้ที่ 20,000–100,000 ธุรกรรมต่อวินาที (tps) เมื่อเทียบกับอัตราก่อนหน้านี้เพียง 30 tps เท่านั้น
นอกจากนี้ การเปลี่ยนครั้งนี้ยังทำให้เห็นว่าเครือข่าย Ethereum มีประสิทธิภาพด้านพลังงานเพิ่มขึ้นถึง 99.9% เมื่อเทียบกับระบบเก่า จึงช่วยลดเรื่องของความกลัวว่าจะมีการใช้พลังงานที่มากเกินไป จากกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ที่ยังคงมีอยู่ค่อนข้างมากเช่นเดียวกับ Bitcoin
ตลาด GPU จะเเป็นยังไงต่อไป?
สิ่งที่เห็นได้ชัดในตอนนี้คือ Ethereum Merge ได้ทำหน้าที่เป็นการอัปเกรดทางเทคนิคและอุตสาหกรรมที่สำคัญสำหรับภาคการขุดคริปโตเคอร์เรนซีในช่วงที่ผ่านมา โดย Ilman Shazhaev ผู้ก่อตั้งและ CEO ของเกม Metaverse “Farcana” เผยกับทาง Cointelegraph ว่าแม้จะมีความเปลี่ยนแปลงไปของการอัปเกรดนี้ แต่อุตสาหกรรม GPU ก็ยังได้รับผลกระทบอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องของโปรโตคอลแบบ PoW ในแต่ละวัน
ในความเห็นของเขา เขาคิดว่าราคาของ GPUs จะไม่ถูกลงมากนักในเร็ว ๆ นี้ โดยราคาของพวกน่าจะมีเสถียรภาพตามอัตราปัจจุบัน (ไม่ลดไม่เพิ่ม) อันที่จริง เขาเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เราเห็นอยู่ขณะนี้ได้คำนวณถึงปัจจัยก่อนการ Merge แล้ว และยังเสริมอีกว่า เพื่อสร้างแรงผลักดันสำหรับการเปิดตัว GPU ที่กำลังจะมาถึง ผู้ผลิตอย่าง Nvidia ก็ได้เริ่มเคลียร์สินค้าคงเหลือไปบ้างแล้ว
สุดท้ายนี้ ก็ต้องดูกันต่อไปว่าในสถานการณ์ที่ไม่มีโทเค็นให้ขุด จะเป็นยังไงต่อไป โดยผู้ผลิตส่วนใหญ่มักจะเปลี่ยนกลับไปใช้กระบวนการ “การผลิตตามคำสั่ง (Order-based Production) หลังจากการขุดคริปโตฯ เฟื่องฟูในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาและทำให้เกิดการกักตุนจำนวนมาก
ที่มา: Cointelegraph
