ZkSync ได้เปิดเผยรายละเอียดของสิ่งที่เชื่อว่าจะสามารถปลดล็อก “10x moments” ของ crypto ก่อนการเปิดตัว mainnet ของ Layer 2 โดยเน้นถึงเทคโนโลยีใหม่อย่าง Layer 3
Steve Wilhelm หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ ZkSync กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ The Block ว่ามันมีความคล้ายคลึงกันมากมายระหว่างยุคแรก ๆ ของอินเทอร์เน็ตและสิ่งที่อุตสาหกรรมบล็อกเชนอยู่ในปัจจุบัน
ในปี 1995 ความเร็วอินเทอร์เน็ตเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10kB และมีเว็บไซต์ไม่ถึว 30,000 เว็บไซต์ แต่ในเวลาเพียง 10 ปี ความเร็วเหล่านั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก และจำนวนเว็บไซต์ที่มากกว่า 6 พันล้าน โดยมีการปรับปรุงในด้านต่าง ๆ ทั้ง ความเร็ว , ต้นทุนในการสร้าง , ความง่ายในการสร้าง , และความไว้วางใจ
เครือข่ายหลัก Layer 2 ของ ZkSync จะเปิดตัวในวันที่ 28 ต.ค.นี้ ซึ่งเมื่อเปิดตัว โซลูชัน Layer 2 คาดว่าจะเพิ่มธุรกรรมต่อวินาที (TPS) ได้ประมาณ 10-20 เท่า เมื่อเทียบกับ Ethereum และทำให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชันที่อิงตาม zero knowledge โดยใช้ภาษา Solidity โดยสิ่งนี้จะช่วยขจัดความยากในการเรียนรู้ภาษา ZK ดั้งเดิมเพื่อสร้างแอปพลิเคชัน
“Layer 2 เป็นบล็อกเชนที่เหมาะกับพวกเขาเนื่องจากมันปรับขนาด Ethereum ได้ทุกที่ตั้งแต่ 10 ถึง 100x และเมื่อคุณเข้าสู่ Layer 3 ผมจะบอกว่ามันจะเป็น 10x moments ของคริปโต” Wilhelm กล่าวใน The Scoop
Layer 3 สามารถเพิ่ม TPS ได้อย่างมาก และปลดล็อกการใช้งานใหม่ล่าสุดสำหรับเทคโนโลยีบล็อกเชน ผ่านการปรับแต่งแอปพลิเคชัน
ที่ระดับ Layer 3 นักพัฒนาสามารถเลือกข้อมูลที่ต้องการเพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ทำให้ TPS เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยอนุญาตให้นักพัฒนาปรับแต่ง chain ได้ตรงตามความต้องการของโครงการ
โซลูชันของ ZKSync มีเป้าหมายเพื่อจัดการกับการแฮ็ก bridge ซึ่งเป็นปัญหาหลักที่สร้างปัญหาให้กับอุตสาหกรรมมาอย่างต่อเนื่องมากกว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์
“ผมอยากเห็นวันที่เราเปิดเบราว์เซอร์ของเรา และแทนที่จะเห็นไอคอน lock ที่ด้านซ้ายบน… เราจะเห็นไอคอน Ethereum – นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะ Layer 3” Wilhem กล่าว
