เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 20 ก.ย. 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ระบุคดี Forex-3D ไม่อยู่ในอำนาจดูแลของ ก.ล.ต. ว่า “ตนฟังแล้วรู้สึกเสียใจ เพราะต้องมีหน่วยงานที่กำกับดูแลเรื่องนี้ปล่อยให้มีการตั้งบริษัทและสร้างกุศโลบายเพื่อมาลงทุน มีกำไรจากประชาชน มีเงินระดมทุนเป็นพันเป็นหมื่นล้านบาท หลอกลวงประชาชนเสียหายโดยไม่ต้องมีการกำกับดูแลเลยหรือ” ด้านผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นช่องโหว่ทางกฎหมายหรือไม่? และควรจะเป็นหน่วยงานใดเป็นผู้ดูแล? นายชัยวุฒิกล่าวว่า เดี๋ยวตนจะนัดประชุมคณะกรรมการปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ โดยจะมาพูดคุยกันว่า หากสามารถมาเปิดบริษัทหลอกลวงประชาชนผ่านโซเชียลมีเดีย และเครือข่ายต่าง ๆ โดยไม่ขออนุญาตอย่างนี้แสดงว่ากฎหมายไทยไม่ทันสมัย
โดยเผยว่า ตนอยากปิดเว็บไซต์และช่องทางเหล่านี้ จำเป็นต้องเพิ่มอำนาจให้กระทรวงดีอีเอส ถ้า ก.ล.ต.ไม่ทำ ตนจะทำเอง ต้องแก้กฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แต่ตนยืนยันว่า ก.ล.ต.นั้นต้องกำกับดูแลการลงทุนของประชาชน การลงทุนต้องขออนุญาตจาก ก.ล.ต. ต้องขึ้นทะเบียนเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นและความปลอดภัยแก่นักลงทุน แต่ถ้ามีการลงทุนในลักษณะหลอกลวง เปิดบริษัทโดยไม่ขออนุญาต ก.ล.ต. หาก ก.ล.ต.พบเห็นหรือมีผู้แจ้งเข้ามา ก.ล.ต.ต้องแจ้งเตือนประชาชน ต้องทำงานเชิงรุก ให้ความรู้ประชาชน ไม่ใช่ประชาชนเสียหายเป็นพันเป็นหมื่นล้าน ตามเงินคืนไม่ได้แบบนี้ ย้ำว่าถ้า ก.ล.ต. ไม่ทำก็ต้องหาหน่วยงานอื่นมาทำ
นอกจากนี้ นายชัยวุฒิ ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีผู้นำกระดาษซึ่งมีประวัติคนไข้ของโรงพยาบาลถูกใช้เป็นถุงใส่ขนมโตเกียวที่ จ.ชลบุรี ถือว่าผิด พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) หรือไม่ ว่า ข้อเท็จจริงมีความผิด แต่ในช่วงแรกเรายังไม่เน้นการเอาผิดและการลงโทษ ยังมีการผ่อนผันให้อยู่ แต่อยากแจ้งไปถึงผู้ประกอบการที่มีข้อมูลของลูกค้า ท่านต้องเก็บรักษาไว้ให้ดี อย่าให้รั่วไหล และหากจะทิ้งต้องทำลาย เผา ฉีก อย่าเอาไปขายหรือเอาไปใช้ต่อ เพราะข้อมูลเหล่านี้หากรั่วไหลออกไปถือว่าผิดกฎหมาย เป็นมาตรการที่ทุกหน่วยงาน ทุกบริษัท ทุกองค์กร ต้องทราบว่าใบสมัครของประชาชน หรือเอกสารที่มีข้อมูลส่วนบุคคล จะเอาไปทิ้งขยะเลยไม่ได้ ต้องทำลายก่อน เมื่อถามว่า หากเจ้าของข้อมูลจะฟ้องร้องสามารถทำได้หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า “มีสิทธิ์ฟ้องร้องได้” แต่อยากย้ำว่าในระยะแรกของการบังคับใช้กฎหมายเรายังมีข้อผ่อนปรน เป็นการตักเตือน ยังไม่อยากบังคับใช้ เพราะเกรงว่าบริษัทจะไม่กล้าทำงานจนเกิดผลกระทบอื่น ๆ ตามมากับประชาชน
ที่มา: Thairath