พ่อแม่สมัยใหม่อาจจะต้องจับตาดูการเล่นเกมของลูก ๆ อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น เนื่องจากบางคนอาจต้องเสียภาษีจากเกม Play-To-Earn จำนวนมาก ตามที่ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีคริปโต (crypto) กล่าว
Adam Saville-Brown หัวหน้าบริษัทซอฟต์แวร์ด้านภาษีระดับภูมิภาค Koinly กล่าวระหว่างการประชุม Australian Crypto Convention เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า หลายคนไม่ทราบว่า รายได้จากเกม play-to-earn (P2E) อาจต้องเสียภาษีเช่นเดียวกับการซื้อขายและการลงทุน crypto
“พ่อแม่ควรกังวลเกี่ยวกับการเล่นเกมของลูก ๆ เช่น GTA เนื่องจากความรุนแรง […] แต่ตอนนี้ ผู้ปกครองจำเป็นต้องตระหนักถึงความซับซ้อนทางภาษีเพิ่มเติมด้วย”
Saville-Brown กล่าวว่า เขาได้รับการติดต่อระหว่างการประชุมโดยพ่อของลูกชายวัย 9 ขวบ โดยกังวลว่าลูกชายของเขากำลัง “ทำเงิน” จากเกม P2E
“เด็กอายุ 9 ขวบ … ได้กำไรจากการขุด , Stake , สร้างวิดีโอบน Youtube และ TikTok จนถึงจุดที่พ่อของเขาต้องพาเขามาที่นี่ในวันนี้ เพราะเขาสร้างรายได้มหาศาล” Saville-Brown เล่าให้ Cointelegraph ฟัง
Danny Talwar หัวหน้าฝ่ายภาษีของ Koinly อธิบายว่า ในออสเตรเลีย หากใครเล่นเกม Play-To-Earn พวกเขาจะถูกพิจารณาว่าเป็น “การดำเนินธุรกิจ” และอาจเผชิญกับสถานการณ์ทางภาษีที่ “ซับซ้อน”
“หากคุณเป็นนักเล่นเกมมืออาชีพ ก็เป็นไปได้ว่าคุณกำลังทำธุรกิจ ดังนั้นคุณจะได้รับการปฏิบัติภายใต้กฎเกณฑ์ดังกล่าว”
สิ่งนี้ซับซ้อนยิ่งขึ้นเนื่องจากผู้เล่นสามารถ “เล่นเกมเหล่านี้ในฐานะนักลงทุน” หรือ “เล่นเกมเหล่านี้ในฐานะ trader”
ตามรายงานของสำนักงานภาษีของออสเตรเลีย นักลงทุนต้องได้รับผลกำไรจากการขายทรัพย์สิน ในขณะที่ trader ที่ทำสิ่งเดียวกันจะถูกมองว่าเป็น “การซื้อขายหุ้นในธุรกิจ” และด้วยเหตุนี้ ผลกำไรใด ๆ จะถือเป็นรายได้ปกติ
สถานการณ์ที่คล้ายกันนี้อาจเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา โดยทางด้าน Artav at Law ซึ่งเป็นสำนักงานกฎหมายของสหรัฐฯ เผยว่ารายได้ที่เกิดขึ้นจาก “P2E ทั้งหมด” นั้นมีความซับซ้อน เนื่องจากต้องกำหนดประเภทของรายได้ว่ามาจาก NFT หรือโทเค็น หรือรายได้จากการ stake หรือ แอร์ดรอป?”
สำนักงานกฎหมายของสหรัฐฯ ระบุว่า ไม่ว่าจะเรียกว่าโทเค็น หรือสกุลเงินดิจิทัล แต่โทเค็นเหล่านี้จะถูกเก็บภาษีเหมือนทรัพย์สินที่ไม่มีตัวตนและต้องเสียภาษีกำไรจากการขาย