สำหรับผู้ถือ ETH ที่ใช้กระเป๋า hardware wallets คำถามมักจะเกิดขึ้นว่า : จะเกิดอะไรขึ้นกับโทเค็นของคุณหากมีการ fork ตามมาหลังจาก the merge ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในเวลาประมาณเที่ยงของวันนี้
Charles Guillemet, CTO ของกระเป๋าเงิน Ledger อธิบายว่า “ในกรณีที่มีการ fork สิ่งแรกที่ทุกคนควรทราบก็คือทรัพย์สินใดๆ ที่ผู้ใช้มีอยู่ในเครือข่ายหลักในปัจจุบันจะปลอดภัย” และกล่าวเสริมว่าบริษัท ” จะยังไม่สนับสนุน ETH Proof of Work fork ในวันที่ 1 เนื่องจากมีหลายแง่มุมทางเทคนิคที่จำเป็นต้องได้รับการประเมินเพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ และสิ่งสำคัญคือต้องมั่นใจว่า chain ใหม่มีความปลอดภัย”
ในทำนองเดียวกัน Josef Tětek นักวิเคราะห์ bitcoin ที่ Trezor กล่าวว่า “Trezor Suite จะยังไม่สนับสนุน ETH Proof of Work fork หลังจาก The Merge แต่ผู้ใช้ยังคงสามารถใช้ Trezor กับอินเทอร์เฟซของบุคคลที่สามเช่น MetaMask เพื่อเข้าถึง เวอร์ชันเก่าของ blockchain ได้”
Tangem ผู้ให้บริการกระเป๋าเงินสวิส ยังไม่มีแผนที่จะสนับสนุน PoW fork เช่นกัน โดยทางด้าน Andrey Lazutkin CTO กล่าวว่า “จนกว่าเราจะแน่ใจถึงความจริงจังของผู้เสนอ Hard Fork นี้ เราจะยังไม่พร้อมที่จะแสดงการสนับสนุนแก่ลูกค้าของเราสำหรับโครงการดังกล่าว” Andrey Lazutkin CTO กล่าว
ผู้ถือ ETH ที่ใช้กระเป๋าเงิน hardware wallets และควบคุม private keys ของตนเองจะสามารถเข้าถึงเหรียญทั้งสองชุดได้อย่างรวดเร็ว (ETHW และ ETH) โดยเจ้าของ private keys สามารถรวบรวมเหรียญที่ Fork ออกมาได้โดยใช้ Metamask เพื่อเชื่อมต่อกับเครือข่าย PoW กับกระเป๋าเงิน Ethereum Virtual Machine (EVM)
บริษัทกระเป๋าเงิน Crypto ยังเตือนผู้ใช้ให้ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในระหว่างและหลังการอัพเกรดเครือข่าย “นักต้มตุ๋นมักจะออกมาเพียบโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างการอัพเกรดเครือข่ายครั้งใหญ่ ดังนั้นอย่าเข้าไปยุ่งกับใครก็ตามที่อ้างว่าคุณจำเป็นต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อปกป้องเหรียญของคุณ” Tetek เตือน
