ฟอร์เวิร์ด (Forward) ฟินเทค-สตาร์ทอัพโกลบอล สัญชาติไทย ด้านบล็อกเชนและนวัตกรรมการเงินการลงทุนด้านการเงินแบบกระจายศูนย์หรือ DeFi ประสบความสำเร็จปิดระดมทุนรอบ Seed Round ประมาณ 160 ล้านบาท หรือ 5 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ภายหลังเปิดระดมทุนเพียง 6 เดือน ท่ามกลางความผันผวนของตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่และตลาดทุน
การเข้าลงทุนรอบนี้ นำโดยกองทุน RPVAF-1 ภายใต้การบริหารของ Primestreet Capital, Beacon Venture Capital จากธนาคารกสิกรไทย, Krungsri Finnovate จาก ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และกองทุนจาก KASIKORN X ซึ่งเป็นการร่วมลงทุนเพิ่มเติมจาก Ratanakorn Technology Group, GBV Capital, และ Varys Capital ที่ได้ยืนยันลงทุนไปก่อนหน้านี้
นาย ชานน จรัสสุทธิกุล ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Forward เปิดเผยว่า Forward เป็นโปรเจกต์ Global Decentralized Finance แรกของโลก ที่ได้รับเงินลงทุนจากทั้งกองทุนระดับโลกและเงินทุนภายใต้ธนาคารรายใหญ่ของไทยถึง 2 ราย ผมเชื่อว่าประเทศไทยยังมีความหวังที่จะก้าวเป็นผู้นำด้าน Innovation & Technology พวกเรายังมีผู้ใหญ่หลาย ๆ ท่าน ที่พร้อมสนับสนุนคนรุ่นใหม่ ผมมองว่าการปิด Seed Round นี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่เพิ่มความท้าทายให้กับทีมงาน Forward ที่จะต้องพัฒนาองค์กรและอัดฉีดทุกความสามารถที่มี เพื่อทำให้ประเทศไทยได้ก้าวเป็นประเทศแห่งนวัตกรรมเทียบเท่าประเทศฝั่งตะวันตก
“ปริมาณการซื้อขาย Cryptocurrency ของ Exchange อันดับหนึ่งของโลกอย่าง Binance ส่วนใหญ่มาจากฝั่ง Derivative ซึ่งมากกว่า Spot อย่างน้อย ๆ 3 เท่า Forward จึงมุ่งเน้นพัฒนาระบบซื้อขายอนุพันธ์สินทรัพย์ดิจิทัลแบบไร้ศูนย์กลาง หรือ Decentralized Derivative Platform ในระดับ global scale เจาะกลุ่มเป้าหมายนักลงทุนในตลาดต่างประเทศเป็นหลัก โดยไม่มีการเก็บสินทรัพย์ลูกค้าไว้กับบริษัท (Non-Custodial Platform) มีระบบการห้ามมิให้ Sanction address และ Sanction Country เข้ามาทำธุรกรรมในแพลตฟอร์ม เรามีทีมวิจัยที่มาร่วมกันออกแบบ เจียรนัยความคิดและสร้าง Protocol ใหม่ ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ชื่อว่า Automated Position Hedger (APH) Protocol โดยการพัฒนาโปรเจกต์นั้น “เราคำนึงถึงข้อกำหนดทางกฎหมาย ความถูกต้องทางบัญชี และความปลอดภัยในสินทรัพย์ของนักลงทุนเป็นหลัก” ชานน กล่าวเพิ่มเติม
ผศ.ดร.อุดมศักดิ์ รักวงษ์วาน ผู้ร่วมก่อตั้งและที่ปรึกษา กล่าวเสริมว่า “เรามุ่งพัฒนา Forward ให้เป็น ‘One Stop Service’ ที่จะแก้ Pain Point ของโลก DeFi ให้เป็นแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้งานสามารถได้รับผลตอบแทนแบบยั่งยืน เข้าถึงง่าย และปลอดภัย นั่นคือ ผลตอบแทนที่สูงของผู้ใช้งานต้องมีที่มาที่ไปชัดเจนจากโมเดลธุรกิจของแพลตฟอร์มที่มีความเสี่ยงต่ำ สามารถใช้งานได้ในระยะยาว มี Interface ที่เข้าใจง่าย ใช้งานง่าย ลดกำแพงของโลกบล็อกเชนสำหรับผู้ใช้งานใหม่ และต้องผ่านการตรวจสอบเชิงเทคนิค (Technical Audits) ในทุก ๆ บรรทัดของ Smart Contract ทั้งแพลตฟอร์ม จากผู้ตรวจสอบที่น่าเชื่อถือมากกว่า 2 เจ้าขึ้นไป”
นาย ศุภวัฒก์ ชลวณิช ผู้ร่วมก่อตั้ง และพาร์ทเนอร์ ของ PrimeStreet Capital ซึ่งเป็น lead investor ในรอบนี้ กล่าวว่า “เรามีความชำนาญด้านการเงินและสนใจในบล็อกเชนเทคโนโลยีอยู่แล้ว ซึ่งเราให้ความสำคัญอย่างมากกับความปลอดภัยและยั่งยืนของ protocol โดยเฉพาะในภาวะที่สินทรัพย์ดิจิทัลมีความผันผวนมากกว่าปกติ ทีมงานเราลงลึกไปถึงความรัดกุมของ operating logic ทั้งหมด รวมทั้งประเมินถึง enhanced features ต่างๆ เพื่อค้นหาแพลตฟอร์ม ที่สามารถเพิ่มศักยภาพและทางเลือกของตลาด DeFi ซึ่ง Forward ทำได้ดีมาก เชื่อว่าจะเป็น DeFi platform ที่สามารถผ่านพ้นความผันผวนและเติบโตบนโลกสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างไม่ยากเย็น”
เกี่ยวกับ Forward
Forward คือฟินเทคสตาร์ทอัพด้านสินทรัพย์ดิจิทัลและบล็อกเชน เกิดจากการรวมตัว ของทีมนักพัฒนาด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนและนักวิจัยเทคโนโลยี ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในทีมพัฒนาธุรกิจกระดานเทรดคริปโทเคอร์เรนซี่ ที่มีชื่อเสียงของประเทศไทยภายใต้การกำกับดูแลของก.ล.ต.
ปัจจุบัน Forward อยู่ระหว่างทำการวิจัยและพัฒนาระบบซื้อขายอนุพันธ์สินทรัพย์ดิจิทัลแบบไร้ศูนย์กลาง (Decentralized Derivative Exchange) และระบบบริการด้านการเงินสินทรัพย์ดิจิทัลแบบไร้ศูนย์กลาง (Decentralized Finance) ที่ประกอบด้วย การกู้เงิน (Borrowing) และ การฝากเงิน (Lending) ภายใต้ Protocol ที่คิดค้นขึ้นมาใหม่ชื่อว่า Automated Position Hedger (APH) Protocol
เกี่ยวกับ Primestreet Capital
Primestreet Capital เป็นผู้บริหารกองทุนระดับโลกสัญชาติไทย ซึ่งปัจจุบันดูแลกองทุน real estate PE fund, growth PE fund, และ global VC fund รวมมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท โดยกองทุน RPVAF-1 ซึ่งเป็น global VC fund ภายใต้การดูแลของ Primestreet Capital ได้มีการลงทุนใน impact technology company หลายกิจการทั่วโลก