Changpeng Zhao (CZ) ซีอีโอของ Binance ออกแถลงการณ์ในบล็อกของ Binance เพื่อเผยถึงความสัมพันธ์ของบริษัทกับจีนกระจ่างขึ้น โดยเขายืนยันว่า Binance ไม่ใช่บริษัทจีน และทฤษฎีสมคบคิดที่ว่ามีพนักงานชาวจีนที่แอบดำเนินธุรกิจนั้นไม่เป็นความจริง
ในแถลงการณ์ ที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี CZ เริ่มต้นด้วยการเล่าประวัติส่วนตัวของเขากับจีน โดยเขาและครอบครัวออกจากประเทศไปยังแคนาดาเมื่ออายุได้ 12 ปี เพียงสองเดือนหลังจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 1989
“มันเปลี่ยนชีวิตผมไปตลอดกาลและเปิดโอกาสให้ผมไม่รู้จบ” เขาเขียน
CZ ย้ายกลับมาที่ประเทศจีนในปี 2005 และเริ่มธุรกิจเว็บเทรดในฐานะบริการที่เรียกว่า Bijie Tech ในปี 2015 อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนได้ปิดเว็บเทรดทั้งหมดในเดือนมีนาคม 2017 ส่งผลให้ธุรกิจต้องยุติลง
ตามที่ CEO กล่าว พนักงานคนหนึ่งที่ทำงานให้กับเขาในบริษัทแรกของเขาอย่าง – Bijie Tech – คือ Guanying Chen ชาวจีน ซึ่ง CZ ได้ให้เธอจดทะเบียนเป็นตัวแทนทางกฎหมายของบริษัทในขณะนั้น เนื่องจากกฎหมายที่เข้มงวดในประเทศจีนที่เกี่ยวกับชาวต่างชาติเช่นเขาซึ่งเป็นพลเมืองแคนาดา
“เนื่องจากชื่อของเธอถูกระบุไว้ในเอกสาร Bijie Tech ยุคแรก ทำให้เกิดทฤษฎีสมคบคิดที่ว่า Guangying แอบเป็นเจ้าของ Bijie Tech และแม้กระทั่ง Binance”
มีบทความข่าวมากมาย รวมทั้งบทความที่ตีพิมพ์โดยนิตยสาร Fortune เมื่อวันจันทร์ ได้อ้างว่า Binance มีความเชื่อมโยงกับจีนอย่างลึกซึ้งเนื่องจากต้นกำเนิดของบริษัท โดยบทความดังกล่าวแนะนำว่า Binance อาจต้องถูกแบนในอินเดียเช่นเดียวกับ TikTok เนื่องจากถูก “นำโดยบุคคลที่มาจากจีน”
CZ กล่าวว่า Chen ถูกบังคับให้ออกจากจีนในปี 2017 แต่สำนักข่าวในจีนจำนวนมากยังคงเผยแพร่ “ทฤษฎีสมคบคิด” เกี่ยวกับเธอ ซึ่งหนังสือพิมพ์บางฉบับก็หยิบขึ้นมาเป็นครั้งคราว และวันนี้ Chen ดูแล admin and clearing ของ Binance และอาศัยอยู่ในประเทศในยุโรป
CEO สรุปว่า Chen ไม่ใช่ “สายลับของรัฐบาลจีนที่เป็นความลับ” และ Binance ไม่ใช่บริษัทจีน
CEO ตั้งข้อสังเกตว่าข่าวพวกนี้ FUD ที่เป็นอันตรายนั้นพบได้ทั่วไปใน crypto และ “มีความซับซ้อนมากขึ้น” CZ กล่าว “นอกจากนี้แคมเปญประเภทนี้ยังบั่นทอนความไว้วางใจในอุตสาหกรรมทั้งหมด”
