รายงานการขุด Bitcoin อย่างมืออาชีพจาก Daniel Batten โดยอ้างว่า Bitcoin อาจกลายเป็นเครือข่ายที่ไม่มีการปล่อยมลพิษ ซึ่งรายงานนี้สร้างขึ้นจากข้อมูลจากสภาการขุด Bitcoin เพื่อทำความเข้าใจถึงผลกระทบของแหล่งพลังงาน ‘คาร์บอนติดลบ’ (Carbon Negative) ต่อคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) โดยรวม
ซึ่งในส่วนของ Bitcoin ( BTC ) นั้นหลังจากการสอบสวนและการคาดการณ์ผลลัพธ์ก็ได้มีการคาดการณ์ว่าเมื่อไหร่ที่เครือข่าย Bitcoin ทั้งหมดจะกลายเป็นเครือข่ายที่มีการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์
แต่เครือข่ายจะกลายเป็น ‘คาร์บอนติดลบ’ ได้อย่างไร? กล่าวง่าย ๆ ก็คือการเปลี่ยนก๊าซธรรมชาติไปที่เครื่องกำเนิดไฟฟ้าเพื่อแปลงก๊าซเป็นไฟฟ้าสำหรับขุด Bitcoin ซึ่งผลการศึกษาพบว่ากระบวนการนี้เกิดขึ้นทั่วโลกแล้ว และช่วยลดการปล่อยมลพิษของเครือข่ายได้ถึง 63%
“นั่นหมายความว่า 1.57% ของเครือข่าย Bitcoin ที่ใช้แหล่งคาร์บอนติดลบมีผลกระทบ -4.2% ต่อความเข้มข้นของคาร์บอนของเครือข่าย Bitcoin”
นอกจากนี้การศึกษาจากผู้ขุด BTC ที่ใช้ Flare gas หลายราย รวมถึง Crusoe Energy ในโคโลราโด , Jai Energy ในไวโอมิง , และ Arthur Mining ในบราซิล รวมถึงเหมืองขุดที่ใช้ก๊าซจากของเสียจากสัตว์ เช่น ในสโลวาเกีย ก็แสดงให้เห็นว่าการขุด Bitcoin สามารถส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมโดยการป้องกันการปล่อยก๊าซมีเทนที่เป็นอันตราย
Joe Hall นักข่าวของ Cointelegraph ได้สัมภาษณ์ชาวไอร์แลนด์เหนือที่เพิ่งเริ่มทดลองขุด Bitcoin ที่ชื่อ Owen โดยเค้าบอกกับ Cointelegraph ว่า การขุด Bitcoin โดยใช้ขยะจากฟาร์มก๊าซชีวภาพนั้น “สมเหตุสมผล”
Mining #Bitcoin with biogas from farm waste “makes sense.”
— Joe Hall (@JoeNakamoto) August 10, 2022
Owen the farmer told me that.
Animal waste 🐮💩 -> Biogas 💨 💥-> Electricity⚡️⛏ -> BTC 💰
In the video, we’re stood in front of the BTC mine that sits on top of the anaerobic digester that creates the gas 🎥 https://t.co/uQSltcL5ok pic.twitter.com/e8IF2mXtxP
การเก็บก๊าซเสียจากการทำฟาร์ม ไม่เพียงแต่ช่วยทำความสะอาดอุตสาหกรรมการทำฟาร์มที่ก่อมลพิษเท่านั้น แต่ยังมีรายได้พิเศษผ่าน BTC ที่ขุดได้
อ้างอิง : LINK