ดร นิเวศ มอง ดีล Bitkub และ SCB เป็นบทเรียนสำหรับนักธุรกิจและนักลงทุน

จุดเริ่มต้นดีล Bitkub และ SCB

การเจรจาเทคโอเวอร์ Bitkub ของ SCB ได้ล่มลงอย่างน่าเสียดาย แม้ว่าหลาย ๆ ท่านอาจจะคาดหวังว่าดีลครั้งนี้จะผ่านไปได้ด้วยดี สร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับนักธุรกิจและนักลงทุน

หากใครยังไม่ทราบ ทาง SCBX นั้นได้วางแผนที่จะเข้าซื้อหุ้นของทาง Bitkub มาตั้งแต่ช่วงปีที่แล้วโดยตั้งใจไว้ว่าจะเข้าซื้อหุ้นของ Bitkub กว่า 51% การที่ทาง SCBX มีความสนใจจะเข้าซื้อหุ้นของ Bitkub ทำให้สังคมคาดหวังว่า Bitkub จะได้กลายเป็น ‘ยูนิคอร์น’ แห่งแรกในประเทศไทย

 แต่แล้วในวันที่ 25 ส.ค. 65 ที่ผ่านมาทาง SCB นั้นก็ได้ออกมาประกาศล้มดีลกับทาง Bitkub โดยได้ให้เหตุผลว่าระหว่างการสอบทางธุรกิจ (Due Diligence) นั้นไม่ได้พบว่ามีอะไรผิดปกติอย่างมีนัยยะสำคัญ แต่ทาง Bitkub ยังคงมีประเด็นค้างอยู่กับทาง ก.ล.ต. ที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ จึงจำเป็นที่ทาง SCB นั้นต้องล้มดีลไปในที่สุด

เมื่อทาง SCB ได้ออกมาประกาศล้มดีลกับทาง Bitkub สังคมก็ได้พูดถึงเรื่องนี้และได้แสดงความคิดเห็นในกรณีดังกล่าวด้วย ด้าน ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ก็ได้ออกมากล่าวถึงดีลที่ล่มไปนี้ด้วย

ดร. นิเวศน์มองเป็นบทเรียนสำคัญ

ด้าน ดร. นิเวศน์ ก็ได้เตือนนักลงทุนและนักธุรกิจว่าเมื่อมีการประกาศถึงดีลเทคโอเวอร์ใด ๆ ก็ตามให้อย่าเชื่อมั่น 100% ว่าดีลนั้นจะเกิดขึ้น เพราะการเทคโอเวอร์แต่ละครั้งจะต้องมีการสอบทานธุรกิจอย่างถี่ถ้วน

พร้อมเตือนนักลงทุนว่าถ้าเกิดจะทำกำไรจากสินทรัพย์ของบริษัทที่กำลังจะถูกเทคโอเวอร์นั้นให้พิจารณาด้วยว่าหากดีลล่มแล้ว นักลงทุนจะเสียหายหนักหรือไม่อย่างไร

“สำหรับผม ก่อนที่จะซื้อหุ้นที่กำลังถูกเทคโอเวอร์ นอกจากจะต้องดูว่าราคา Discount หรือส่วนลดนั้นคุ้มค่าหรือไม่แล้ว ผมยังต้องดูอีกว่าถ้าดีล “ล่ม” ผมจะเสียหายแค่ไหน ถ้าคำตอบก็คือ ราคาที่ผมซื้อนั้น จริง ๆ ก็ถูกมาก หุ้นเป็นหุ้น Value ที่มี Margin Of Safety อยู่แล้ว และเหตุผลที่คนเทคโอเวอร์ก็เพราะหุ้นนั้นถูกเกินไปมาก แบบนี้ผมก็จะซื้อหุ้น แต่ถ้าไม่ใช่ และราคาหุ้นหรือทรัพย์สินนั้น “แพงมาก” ในสายตาของผม ผมก็จะไม่เข้าไปเล่นเลย”

ตลาดคริปโตในไทยช่วงนี้ดูเหมือนว่าจะมีความโกลาหลพอสมควร ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าดาราชื่อดังนักแสดงชื่อดังพิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช, คุณแม่และพวกกว่า 19 คนนั้นถูกฟ้องหลังมีการพบว่านักแสดงและพักได้หลอกลวงนักลงทุนให้ลงทุนใน Forex สร้างความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาทและถูกศาลสั่งจำคุกอยู่ในเวลานี้ 

รวมถึงดีล SCB และ Bitkub ที่ต้องพับโปรเจคต์ไปทำให้ตลาดคริปโตในไทยเริ่มสั่นคลอน ในวันที่มีประกาศดีลล่มราคาเหรียญ KUB ของ Bitkub นั้นก็ดิ่งลงมาที่ระดับ 58 บาทจากระดับ 79 บาทโดยราคาเหรียญ KUB นั้นเคยทำจุด All Time High เอาไว้ในช่วงสิ้นปีที่แล้วอยู่ที่ระดับ 543 บาท เรียกได้ว่า ณ ปัจจุบันเหรียญ​ KUB นั้นต่ำกว่าจุด All Time High ที่เคยทำเอาไว้เกือบ 10 เท่าเลยทีเดียว

ที่มา : LINK

Share on facebook
Share on twitter
Share on linkedin

Junt

ข่าวต่อไป