Arcane Research บริษัทวิจัยและวิเคราะห์ Crypto ได้ออกรายงานเกี่ยวกับการพัฒนาการใช้พลังงานของ Bitcoin ในปี 2040 โดยผู้เขียน Jaran Mellerud ชี้ให้เห็นว่าการใช้พลังงานในอนาคตของ Bitcoin นั้นแตกต่างกันอย่างมาก โดยขึ้นอยู่กับราคา Bitcoin ในอนาคต ควบคู่ไปกับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม ราคาไฟฟ้า และอื่นๆ
หากราคา BTC สูงถึง 2 ล้านดอลลาร์ใน 17 ปีข้างหน้า Bitcoin อาจใช้ 894 เทราวัตต์ต่อชั่วโมง (TWH) ต่อปี เพิ่มขึ้น 10 เท่าจากระดับปัจจุบัน แต่แม้จะมีการเติบโตอย่างมาก แต่การใช้พลังงานดังกล่าวจะคิดเป็นเพียง 0.36% ของการใช้พลังงานทั่วโลกโดยประมาณในปี 2040 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากส่วนแบ่ง 0.05% ของ Bitcoin ในวันนี้ ตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
“ปัจจุบัน จากการใช้พลังงาน 88 TWh และราคาพลังงานเฉลี่ย 50 ดอลล่าร์ต่อ MWh ทำให้นักขุด Bitcoin ใช้จ่ายประมาณ 50% ของรายได้ทั้งหมดไปกับพลังงาน” Mellerud กล่าว
การใช้พลังงานในอนาคตของ Bitcoin จะต่ำกว่ามากในสถานการณ์ที่เป็นขาขึ้น โดยราคา BTC จะต้องสูงถึง 500,000 ดอลลาร์ในปี 2040 เพื่อให้ Bitcoin บริโภคพลังาน 223 TWh ต่อปี และหาก Bitcoin ซื้อขายที่ $100,000 ใน 17 ปี การขุด BTC จะใช้เพียง 45 TWh ต่อปี รายงานระบุ
นักวิเคราะห์ยังกล่าวถึงผลกระทบที่สำคัญของ Bitcoin halving ซึ่งหมายถึงการลดรางวัลบล็อคของผู้ขุดลง 50% โดยตามรายงาน ราคา BTC จะต้องเพิ่มขึ้นอย่างมากเนื่องจากการ Halving ในขณะที่ “ผลกระทบจากการลดลง” ของ Halving สามารถชดเชยได้ด้วยค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
“การเพิ่มขึ้นดังกล่าวจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีความต้องการอย่างมากสำหรับการใช้ Bitcoin เป็นระบบการชำระเงิน” Mellerud เขียนเพิ่มเติม
รายงานยังชี้ให้เห็นว่า การใช้พลังงานของ Bitcoin จะถึงระดับที่มีนัยสำคัญก็ต่อเมื่อ Bitcoin ประสบความสำเร็จในฐานะสกุลเงิน
