ในช่วงนี้เป็นช่วงที่ชุมชนคริปโตได้ให้ความสนใจกับ Ethereum เป็นพิเศษเนื่องจาก Ethereum จะมีการเปลี่ยนผ่านระบบตรวจสอบและการยืนยันธุรกรรมครั้งใหญ่จากระบบแบบ Proof of Work (PoW) มาเป็น Proof of Stake (PoS) เรียกว่าการอัพเกรด “The Merge” มุ่งสู่วิสัยทัศน์การสร้างเครือข่าย Ethereum 2.0 ในช่วงเดือนกันยายนนี้
เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมาทาง Bitcoin Addict ก็ได้มีการสัมภาษณ์กับผู้เชี่ยวชาญจาก Cryptomind Advisory เกี่ยวกับการอัพเกรด The Merge นี้ เรามาดูกันว่าในมุมมองของผู้เชี่ยวชาญการอัพเกรดดังกล่าวจะส่งผลกระทบอะไรต่อนักลงทุนไหมและสิ่งที่ไม่ควรทำหลังการอัพเกรด The Merge นั้นมีอะไรบ้าง
The Merge คืออะไร?
The Merge คือหนึ่งในขั้นตอนการเปลี่ยนระบบการยืนยันธุรกรรมบนเครือข่าย Ethereum จากระบบแบบ Proof of Work ที่ต้องพึ่งการใช้กำลังประมวลผลของคอมพิวเตอร์ในการยืนยันธุรกรรมซึ่งต้องใช้พลังงานไฟฟ้าสูงมากมาเป็นระบบแบบ Proof of Stake ที่ใช้เงินเดิมพันของผู้ยืนยันธุรกรรมในการยืนยันว่าธุรกรรมที่ให้ผ่านว่าถูก ทำให้ลดเรื่องการใช้พลังงานไฟฟ้าไปได้มากถึง 99.95% จากการคำนวณของ Ethereum Foundation
เตรียมตัวอย่างไรก่อน The Merge?
การเตรียมตัวก่อนที่จะมีการอัพเกรด The Merge นั้นถ้านักลงทุนต้องการเข้าไปหารายได้จาก Ethereum Proof of Work ที่จะมีการ Hard Fork ออกมาใหม่ ด้านผู้เชี่ยวชาญก็แนะนำว่าควรที่จะนำสภาพคล่องออกมาจาก Decentralized Exchange ก่อนเพื่อเลี่ยงความเสี่ยงจาก Impermanent Loss (มูลค่าที่เสียโอกาสไปชั่วคราวจากความผันผวนของราคาคริปโต) และถอนสภาพคล่องจากสินทรัพย์กลุ่ม Fiat-Backed ที่ประกาศว่ารองรับใน Ethereum Proof of Stake เท่านั้นเพราะในนี้จะไม่มีมูลค่า
แต่ถ้าหากนักลงทุนอยากเก็งกำไรก็สามารถที่จะนำเหรียญ Ethereum ไปปล่อยกู้ใน Lending Protocol ต่าง ๆ ได้เพราะช่วงนี้ผลตอบแทนค่อนข้างจะสูง หรืออาจนำเหรียญ Ethereum โอนเข้ามาใน Centralized Exchange (Cex) เช่น Poloniex, Bitmex, Coinup, MEXC, Gateio แพลตฟอร์มเหล่านี้สามารถนำเหรียญ ETH มาแลกเป็น ETH PoS (ETHS) และ ETH PoW (ETHW) แล้วเทขายเพื่อทำกำไรก็ได้ ซึ่งในตอนนี้มูลค่าเหรียญ 1 ETH จะเท่ากับ 1 ETHW +1ETHS หรือรอให้ Cex อันดับต้นๆ อย่าง Binance และ FTX ประกาศรับรองจะปลอดภัยที่สุด
หลังการอัพเกรด The Merge เครือข่าย Ethereum จะเป็นอย่างไร?
การอัพเกรด The Merge คือการอัพเกรดในเรื่องของระบบการยืนยันในการทำธุรกรรมเป็นหลัก ดังนั้นหลังจากการอัพเกรดดังกล่าวแล้วด้านผู้เชี่ยวชาญก็กล่าวว่าจะทำให้ ETH สามารถประหยัดพลังงานได้ถึง 99.95%
“การใช้การ์ดจอขุดมันกินไฟ แต่ PoS ไม่ต้องใช้การ์ดจอในการประมวลผล ใช้ Client หรือโปรแกรมในการประมวลผล คาดว่าจะทำให้ ETH จากที่กินพลังงาน 112 เทราวัตต์ต่อชั่วโมงต่อปี ลงมาเหลือ 0.01 เทราวัตต์ต่อชั่วโมงต่อปี ข้อมูลอ้างอิงได้จาก Ethereum Foundation”
นอกจากนี้ด้านผู้เชี่ยวชาญก็มองว่าหลังจากการอัพเกรด The Merge เกิดขึ้นอาจส่งผลต่อราคา ETH ด้วย โดยกล่าวว่า
“ผู้ร่วมก่อตั้ง Vitalik Buterin นั้นต้องการเปลี่ยนระบบการยืนยันธุรกรรมเป็น PoS มาตั้งแต่ปี 2017 แต่มีปัญหาเลยเลื่อนมาตลาด จนกระทั่งมีการทดสอบ testnet 5 ครั้งจนสำเร็จ ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าการอัพเกรด The Merge จะส่งผลต่อราคา ETH”
สำหรับนักลงทุนที่กังวลว่าเหรียญ Ethereum ที่อยู่บนบล็อกเชนก่อนการอัพเกรด The Merge จะเป็นอย่างไร ผู้เชี่ยวชาญก็กล่าวว่ามันจะอยู่เหมือนเดิมทุกอย่าง เพราะ The Merge เป็นการเปลี่ยนระบบการยืนยันการทำธุรกรรม PoW เป็น PoS
“การอัพเกรดดังกล่าวคล้าย ๆ กับการอัพเกรด iOS มันคือเชนตัวเดิมที่อัพเกรดให้ดีขึ้น”
นอกจากนี้แล้วหลังจากการอัพเกรด The Merge เราอาจได้เห็นบล็อกเชน PoW ตัวใหม่ที่ Hard Fork ออกมาจาก PoS
“บล็อกเชนเก่าจะเป็น PoW ใช้การ์ดจอในการขุด พอเปลี่ยนเป็น PoS หลังจากการอัพเกรด The Merge ก็ไม่ต้องใช้การ์ดจอแล้วทำให้มีคนบางกลุ่มเสียประโยชน์ จึงมีกลุ่ม Miner เก่าที่รวมตัวอยากให้มีการ Downgrade บล็อกเชนกลับมา แต่เสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการอัพเกรดจึงทำให้เกิดการ Hard Fork ออกมาจาก PoS เป็น PoW ซึ่งจะเป็นการก๊อปปี้เหรียญจากบล็อกเชน PoW เก่ามา”
ข้อที่ไม่ควรทำหลังการอัพเกรด The Merge
ในทีนี้นักลงทุนหลาย ๆ ท่านอาจจะกังวลว่าหลังจากการอัพเกรด The Merge แล้วมันมีอะไรไหมที่เราไม่ควรที่จะทำ จากการสัมภาษณ์ด้านผู้เชี่ยวชาญก็ได้เผยว่าให้ระวังในเรื่องของความผันผวนของราคา ETH และเมื่ออัพเกรดเสร็จใหม่ ๆ อาจยังไม่ใช่จังหวะที่ดีที่จะเทรดฟิวเจอร์ ETH เพราะอาจมีการเทขายเกิดขึ้น
“ราคาขึ้นตอนนี้อาจเกิดจากความคาดหวังของนักลงทุน ซึ่งเมื่อ The Merge เกิดขึ้นอาจมีการเทขาย ETH, ราคา ETH จะผันผวนสูงมาก มันจะมีการสู้กันของราคา ETH ใน PoW และ PoS และไม่ควรเล่นฟิวเจอร์หรือ leverage ในช่วง The Merge เพราะนักเก็งกำไรอาจจะไปปั่นราคา”
นอกจากนี้ด้านผู้เชี่ยวชาญยังเตือนอีกด้วยว่าไม่ควรใช้แพลตฟอร์ม bit เหรียญคริปโตเนื่องจากอาจมีธุรกรรมแทรกซ้อนจำนวนมากและให้ระวังในเรื่องของการ scam ที่อาจเกิดขึ้นบนแพลตฟอร์ม Metamask ด้วย
“เวลาจะใช้งาน Metamask ต้องกดเพิ่ม Blockchain ให้ระวังตัว ETH PoW เพราะอาจมีคนมาปั่นอ้างว่าเป็น address ของ PoW”
บทสรุป
การอัพเกรด The Merge คือการเปลี่ยนระบบการยืนยันการทำธุรกรรมบน Ethereum จาก PoW เป็น PoS ไม่ต้องพึ่งการ์ดจอในการขุด หลังการอัพเกรด The Merge เกิดขึ้นเหรียญที่นักลงทุนมีอยู่จะยังคงเดิมทุกอย่าง การอัพเกรดดังกล่าวเป็นไปเพื่อสร้างเครือข่าย Ethereum 2.0 ให้โปรเจกต์สามารถประหยัดพลังงานได้มากกว่าเดิม แต่ไม่ได้ส่งผลในเรื่องของการลดค่าธรรมเนียมบนเครือข่าย Ethereum (Gas Fee) ซึ่งจะมีการอัพเกรด Shanghai บนเครือข่าย Ethereum เพื่อลดค่า Gas Fee อีกครั้งใน 6-12 เดือนให้หลังจากการอัพเกรด The Merge นอกจากนี้ ในช่วงที่ The Merge กำลังถูกพูดถึงมากในโลกคริปโต นักลงทุนจึงต้องควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษหากจะตัดสินใจทำธุรกรรมการลงทุนในโปรเจคต์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Ethereum เพราะอาจมีผู้ไม่หวังดีใช้ประโยชน์ช่วงนี้ทำการหลอกลวงนักลงทุน
สัมภาษณ์คุณ ออดี้ ศิวกร สมุทรทองและคุณอ๊อก พริษฐ์ บุญเลื่อน – Analyst at Cryptomind Advisory
เรียบเรียงโดย ทีมงาน Bitcoin Addict Thailand
ภาพ : LINK