อาจมีหลายคนมองว่าการใช้การใช้ Know Your Customer (KYC) ใน crypto เป็นอุปสรรคต่อมาตรฐานของ Bitcoin ( BTC ) ซึ่งมีการส่งเสริมการทำธุรกรรมแบบ peer-to-peer ที่ไม่ต้องเปิดเผยชื่อ อย่างไรก็ตาม หน่วยงานกำกับดูแลยังคงส่งเสริมการใช้ KYC และการต่อต้านการฟอกเงิน (AML) เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของนักลงทุนและการป้องกันการฉ้อโกงทางการเงิน
ในขณะที่เว็บเทรด crypto ส่วนใหญ่ได้เริ่มใช้คำแนะนำด้านกฎระเบียบ เพื่อให้อยู่ในระดับแนวหน้าของการยอมรับในวงกว้างของ crypto แต่นักลงทุนยังคงมีทางเลือกในการเลือกใช้งานเว็ยเทรด crypto ที่ส่งเสริมการไม่เปิดเผยตัวตนมากขึ้นโดยไม่กำหนดกระบวนการ KYC แต่การเลือกทางนี้นั้นนักลงทุนรจะมีความปลอดภัยหรือไม่?
เรื่องของความไว้วางใจ
การไม่เปิดเผยตัวตนนั้น เจ้าของเว็บเทรด crypto ที่ไม่มี KYC (หรือไม่ปฏิบัติตาม) มักจะเลือกที่จะไม่เปิดเผยตัวตนเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบทางกฎหมาย ส่งผลให้นักลงทุนต้องมีความไว้วางใจในตัวของผู้รับผิดชอบในการดำเนินการเว็บเทรดในระดับสูง
ในทางกลับกัน เว็บเทรดแบบกระจายอำนาจ เช่น dYdX ใช้ trustless protocols สำหรับการสร้างแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ควบคุมโดยชุมชน ในทางกลับกัน มันก็เป็นการปลูกฝังความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน แม้จะไม่ได้รับคำสั่งจาก KYC บนแพลตฟอร์มก็ตาม
ดังนั้น การตรวจสอบประวัติของแพลตฟอร์ม และผู้ที่ทำงานอยู่จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งเมื่อทำการซื้อขายบนแพลตฟอร์มที่ไม่มี KYC
Blockchain จะจดจำมันไว้ตลอดไป
crypto มักถูกมองว่าเป็นเครื่องมือในการฟอกเงิน แต่การทำธุรกรรม cryptocurrency ที่ผิดกฎหมายได้ลดลงอย่างต่อเนื่องทุกปี แม้ว่าจะใช้ cryptocurrencies ได้ง่ายโดยไม่ต้องมีการตรวจสอบ KYC แต่จากการศึกษาของ Chainalysis ยืนยันว่า มีเพียง 0.15% ของธุรกรรม crypto ทั้งหมดในปี 2021 ที่เชื่อมโยงกับกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ การเก็บบันทึกบนบล็อกเชนยังช่วยให้ทางการสามารถตรวจสอบเจ้าของธุรกรรมได้ และขัดขวางผู้ไม่หวังดีจากการใช้คริปโต (crypto) ทั้งแพลตฟอร์ม KYC และแพลตฟอร์มที่ไม่ใช่ KYC เพื่อสนับสนุนแนวทางปฏิบัติของพวกเขา
ลักษณะการคงอยู่ถาวรของบล็อคเชนทำให้ทางการทั่วโลกสามารถตามล่านักต้มตุ๋น ผู้ฉ้อฉล และผู้ฟอกเงินในอาชญากรรมที่พวกเขาก่อขึ้นเมื่อหลายปีก่อนได้อีกด้วย
Not your keys, not your coins
หนึ่งในข้อกังวลที่ใหญ่ที่สุดเมื่อใช้งานเว็บเทรด crypto คือการขาดการควบคุมสินทรัพย์ Cryptocurrencies ที่เก็บไว้ในเว็บเทรด crypto ซึ่งหมายถึงการมอบ private keys ให้กับเว็บเทรด
การใช้เว็บเทรด crypto ที่ไม่มีการตรวจสอบ KYC ทำให้นักลงทุนเสี่ยงต่อการสูญเสียเงินทุนอย่างถาวร ในขณะที่เว็บเทรดทั้งสองประเภท — ทั้งที่เป็นไปตามข้อกำหนดและไม่เป็นไปตาม KYC — ต้องการให้นักลงทุนส่งมอบสินทรัพย์ crypto ของตนให้กับบุคคลที่สาม แต่เว็บเทรดที่สอดคล้องกับ KYC จะสร้างความไว้วางใจได้มากขึ้นในหมู่นักลงทุนและหน่วยงานกำกับดูแล
คำตอบสำหรับคำถามที่ว่า ‘ เว็บเทรด crypto ที่ไม่มี KYC ปลอดภัยหรือไม่’ นั้น ไม่ว่าจะมี KYC หรือไม่ นักลงทุน crypto ก็ยังคงเสี่ยงต่อปัจจัยภายนอกเช่น ความตั้งใจของเจ้าของเว็บเทรด และการดำเนินธุรกิจที่ราบรื่น
นอกจากนี้ การลงทุนกับเว็บเทรด crypto ที่ไม่มี KYC ยังมาพร้อมกับข้อจำกัดด้านมูลค่าการซื้อขาย โทเค็นที่มีอยู่ และบริการอื่นๆ ที่ผู้ให้บริการนำเสนอ