CoinGecko เว็บไซต์ติดตามราคาคริปโตเคอเรนซี (Cryptocurrency) ได้คาดการณ์ว่า การลดลงของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในปีนี้ได้เปลี่ยนแปลงแนวโน้มในอุตสาหกรรม ซึ่งจากการวิจัยของบริษัทพบว่า ไนจีเรีย ได้กลายเป็นประเทศที่มีความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับ Crypto มากที่สุดในโลก
จากการสังเกตปัจจัยหลายประการ เช่น การค้นหาของ Google ด้วยคำว่า “ซื้อคริปโต” หรือ “ลงทุนในคริปโต” นั้น CoinGecko ระบุว่าไนจีเรีย (มีคะแนน 371 คะแนน) เป็นประเทศที่มีความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับคริปโตมากที่สุด ส่วนอันดับที่สองเป็นของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ในขณะที่สิงคโปร์อยู่ในอันดับที่สาม โดย Bobby Ong ผู้ร่วมก่อตั้งของ CoinGecko กล่าวว่า:
“การศึกษานี้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจว่าประเทศใดยังคงสนใจคริปโตเคอเรนซีมากที่สุด แม้ว่าจะมีการปรับตัวลดลงของตลาด”
เขาสรุปเพิ่มเติมว่า ผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศที่อยู่ในอันดับต้น ๆ ของการจัดอันดับ มีแนวโน้มที่จะ “buy the dip” มากที่สุด และเข้าสู่จักรวาลสินทรัพย์ดิจิทัลในระยะยาว
นอกเหนือจากแสดงความอยากรู้อยากเห็นอย่างมากต่ออุตสาหกรรมแล้ว ชาวไนจีเรียกลุ่มใหญ่ยังได้กลายเป็น HODLers โดยผลการศึกษาของ KuCoin เปิดเผยว่า 35% ของผู้ใหญ่ในประเทศ (หรือ 33.4 ล้านคน) เป็นเจ้าของหรือมีการซื้อขาย cryptocurrencies ในอดีตที่ผ่านมา ยิ่งกว่านั้น 52% มีการจัดสรรความมั่งคั่งทั้งหมดมากกว่าครึ่งหนึ่งไว้ในสินทรัพย์ประเภทนี้
KuCoin ระบุเหตุผลหลักว่าอาจเป็นเพราะการเข้าถึงบริการทางการเงินที่มีอย่างจำกัดในประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในแอฟริกา แม้จะเป็นศูนย์กลางทางการเงินในภาคตะวันตกของทวีป แต่พื้นที่ชนบทอันกว้างใหญ่ในไนจีเรียยังคงเหลืออยู่โดยไม่มีโอกาสทางธนาคารและเงินเฟียต
ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง โดยอัตราเงินเฟ้อยังคงเพิ่มขึ้นทุกเดือนและปัจจุบันอยู่ที่ 18% ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่คนในท้องถิ่นบางคนจะตัดสินใจกระจายพอร์ตการลงทุนของตนด้วยสกุลเงินดิจิทัล
แต่แม้จะมีความอยากรู้เกี่ยวกับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล แต่ไนจีเรียไม่ได้ติดอันดับ 1 ใน 10 ประเทศที่พร้อมสำหรับ Crypto มากที่สุดทั่วโลก โดยอันดับ 1 ในสถิตินั้นคือ ฮ่องกง ด้วยคะแนน 8.6 คะแนนเต็ม 10 คะแนน อันดับที่ 2 และ 3 คือสหรัฐอเมริกาและสวิตเซอร์แลนด์ตามลำดับ
โดยจากการวิจัยพบว่า ทั้งสามประเทศมีสตาร์ทอัพด้านบล็อคเชนมากที่สุด และมีตู้ crypto ATM จำนวนมากที่สุด และกฎหมายเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลที่เป็นมิตรและกฎการเก็บภาษี
อ้างอิง : LINK