หลังจากการยื่นล้มละลายของ Voyager Digital เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา บริษัทให้กู้ยืมเงิน Crypto กล่าวว่า แผนการฟื้นฟูมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาทรัพย์สินของลูกค้า แต่ไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าจะสามารถคืนเงินที่ทั้งหมดให้กับผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบได้
ในบล็อกเมื่อวันจันทร์ Voyager กล่าวว่ามีเงินทุนของผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบประมาณ 1.3 พันล้านดอลลาร์ นอกเหนือจาก “การเรียกร้องค่าเสียหายจาก Three Arrows Capital” จำนวน 650 ล้านดอลลาร์ ซึ่งหมายถึง 15,250 Bitcoin ( BTC ) และ 350 ล้าน USD Coin ( USDC ) ที่บริษัทให้ยืมและล้มเหลวในการชำระคืน ซึ่งตามแผนการฟื้นฟูที่เสนอโดย Voyager ซึ่งต้องได้รับอนุมัติจากศาล ผู้ใช้อาจได้รับโทเค็นของ Voyager , สกุลเงินดิจิทัล , “หุ้นสามัญในบริษัทที่จัดระเบียบใหม่” และเงินทุนจากการดำเนินการใด ๆ กับ Three Arrows Capital หรือ 3AC
“ตัวเลขที่แน่นอนจะขึ้นอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นในกระบวนการปรับโครงสร้างและการกู้คืนทรัพย์สิน 3AC” บริษัทให้กู้ยืมกล่าว “แผนอาจมีการเปลี่ยนแปลง และต้องเจรจากับลูกค้า และสุดท้ายก็ลงคะแนน […] เราได้รวบรวมแผนการปรับโครงสร้างที่จะรักษาทรัพย์สินของลูกค้า และมอบโอกาสที่ดีที่สุดในการเพิ่มมูลค่าสูงสุด”
Voyagers,
— Voyager (@investvoyager) July 11, 2022
We understand how critical it is to get access to the value in your account and we are working through this process as quickly as possible to do just that. Today’s post provides an update on customer cash and crypto, and next steps: https://t.co/yBlVB0qgVp (1/6)
นอกเหนือจากสินทรัพย์ crypto แล้ว Voyager กล่าวว่า กำลังถือกองทุน “เท่ากับจำนวน USD ในบัญชีลูกค้า” ในบัญชีพิเศษที่ประกันโดย FDIC ที่ Metropolitan Commercial Bank of New York ซึ่งการคุ้มครอง FDIC รับประกันสูงถึง $250,000 ต่อลูกค้าหนึ่งราย หากธนาคารล้มเหลว — ไม่ใช่บริษัทสินเชื่อ ซึ่ง Voyager กล่าวเสริมว่า “กำลังดำเนินการกู้คืนการเข้าถึงเงินฝาก USD” ซึ่งอยู่ภายใต้กระบวนการตรวจสอบและป้องกันการฉ้อโกง
นอกเหนือจากการแก้ปัญหาทางกฎหมายที่ Voyager กำลังสำรวจแล้วนั้น บริษัทกล่าวว่า “กำลังดำเนินการทางเลือกเชิงกลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อประเมินมูลค่าของบริษัทแบบสแตนด์อโลน เมื่อเทียบกับการลงทุนหรือการขายของบุคคลที่สาม” โดยข้อมูลจาก TradingView แสดงให้เห็นว่าราคาหุ้นของบริษัทร่วงลงมากกว่า 98% นับตั้งแต่แตะระดับสูงสุดประจำปีที่ 20.35 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน 2021 โดยลงมาอยู่ที่ระดับ 0.27 ดอลลาร์ ณ เวลาที่เผยแพร่