มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ที่เป็นตัวแทนของรัฐบาลสหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้ เว็บเทรด Crypto ที่ได้รับใบอนุญาตของญี่ปุ่น หยุดทำธุรกิจกับรัสเซีย โดยดูเหมือนว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของประเทศ
ตามรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีจาก Financial Times นักการทูตสหรัฐฯได้ขอให้เว็บเทรดหลายแห่งจาก 31 แห่งที่ได้รับอนุญาตให้ทำธุรกิจในญี่ปุ่น และเหมืองขุดบางราย หยุดดำเนินการในรัสเซีย โดยเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานทางการเงินของญี่ปุ่น สำนักงานบริการทางการเงิน หรือ FSA รายงานว่าได้ออกข้อเรียกร้องไปยังเว็บเทรดที่เกี่ยวข้องเพื่อตัดสัมพันธ์ใด ๆ ที่เหลืออยู่กับรัสเซียแล้ว
国務省は、「米国は、G20およびその他の国際パートナーとの関与を継続し、ロシアのウクライナ侵攻に起因する人道的課題、とりわけロシアの侵略戦争が世界の食料およびエネルギー安全保障に及ぼす悪影響に対処していく」とツイートしました。 https://t.co/NIzKSzkte4
— アメリカ大使館 (@usembassytokyo) July 8, 2022
หลังจากการรุกรานยูเครนของรัสเซียในเดือนกุมภาพันธ์ FSA และกระทรวงการคลังของญี่ปุ่นก็ประกาศเมื่อเดือนมีนาคมว่าบริษัทคริปโตที่ดำเนินการธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับบุคคลหรือนิติบุคคลที่ถูกคว่ำบาตรในรัสเซียและเบลารุส จะถูกปรับหรือจำคุก
ภายใต้การนำของ นายกรัฐมนตรี คิชิดะ ฟูมิโอะ ญี่ปุ่นได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ รวมถึงการห้ามนำเข้าทองคำของประเทศ , บริการด้านบัญชีบางประการ , และการระงับทรัพย์สินของรัสเซีย ซึ่งตามรายงานจาก Financial Times ชี้ให้เห็นว่าแม้ว่าบริษัทเหมืองขุดและเว็บเทรด crypto ของญี่ปุ่นหลายแห่งอาจไม่ดำเนินการโดยตรงในรัสเซีย แต่ก็อาจมีบริษัทในเครือที่ทำงานร่วมกับบริษัทในท้องถิ่นที่ละเมิดมาตรการคว่ำบาตร
ภายใต้หลักเกณฑ์ของ FSA นั้น เว็บเทรดทั้งหมดจะต้องลงทะเบียนเพื่อให้บริการที่เกี่ยวข้องกับ Crypto ในญี่ปุ่น โดย ณ วันที่ 17 มิถุนายน มีเว็บเทรดที่ลงทะเบียนและได้รับอนุญาตทั้งสิ้น 31 แห่งในประเทศ รวมถึง DeCurret, bitFlyer, Coincheck และ OKCoin