Citigroup ยักษ์ใหญ่ด้าน Investment banking ได้เปิดเผยผลการวิจัยว่า เทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์สามารถส่งผลกระทบต่อตลาดที่อยู่อาศัยได้อย่างไร โดยกล่าวถึงอสังหาริมทรัพย์เสมือนจริงใน metaverse และการจำนองที่ได้รับการสนับสนุนจาก Crypto
ในรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันพุธที่หัวข้อ “Home of the Future: PropTech — Towards a Frictionless Housing Market?” Citi กล่าวว่า crypto, blockchain และทรัพย์สินใน metaverse มี “ศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงตลาดอสังหาริมทรัพย์แบบดั้งเดิม” ในขณะที่การจำนองที่ได้รับการสนับสนุนจาก Crypto สามารถปรับปรุงกระบวนการซื้อบ้านได้ แต่บุคคลจำนวนมากได้เห็นการลงทุนในทรัพย์สิน metaverse เติบโตขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา
Citi รายงานว่า สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ที่เชื่อมโยงกับสินทรัพย์คริปโตสามารถช่วยให้นักลงทุน “ใช้ประโยชน์จากการลงทุนที่ได้รับ” โดยไม่ต้องเสียภาษีกำไรจากการขาย แต่ก็ให้ความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงในตลาดที่ผันผวน ในขณะที่เงินกู้มาตรฐานจำนวนมากที่เชื่อมโยงกับเงิน Fiat มีขั้นตอนด้านกฎระเบียบเพื่อประเมินความสามารถของผู้กู้ในการชำระคืน ผู้ถือ crypto อาจถูกบังคับให้จ่ายเงินมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหากราคาของโทเค็นลดลงในช่วงตลาดหมี
“หากมูลค่าของ Crypto ลดลง ผู้ยืมอาจถูก margin calls และในที่สุด สกุลเงินดิจิทัลอาจถูกบังคับขาย หากมูลค่าหลักประกันต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด เช่น 35% ของมูลค่าทรัพย์สิน” รายงานกล่าว “ดังนั้นการนอมรับสกุลเงินดิจิทัลในโปรไฟล์เครดิตอาจเพิ่มความเสี่ยงโดยรวมของเงินกู้”
นอกเหนือจากการซื้ออสังหาริมทรัพย์แล้ว รายงานของ Citi ยังให้ความเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นจากการเป็นเจ้าของและสร้างรายได้จาก “อสังหาริมทรัพย์ดิจิทัล” ใน metaverse โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักวิจัยให้รายละเอียดว่า เจ้าของทรัพย์สินเสมือนจริงใน The Sandbox ( SAND ) ซึ่งเรียกว่า LAND ได้ปฏิบัติต่อ metaverse อย่างไรในฐานะการลงทุนที่คล้ายกับอสังหาริมทรัพย์ในโลกแห่งความเป็นจริง โดยราคาได้เพิ่มขึ้นจากประมาณ $100 ต่อ LAND ในเดือนมกราคม 2021 เป็น สูงถึง $200,000 ในปีต่อมา:
“ด้วยธรรมชาติที่พึ่งเกิดขึ้นของสภาพแวดล้อมด้านอสังหาริมทรัพย์เสมือนจริง ผู้ซื้อ LAND จำนวนมากยังขาดแผนที่เป็นรูปธรรม และทำเพียงแค่คาดเดาเกี่ยวกับการเติบโตในอนาคตของแพลตฟอร์มและทำให้ราคาที่ดินสูงขึ้น”
