ตลาดหมีอย่างต่อเนื่องในตลาดสกุลเงินดิจิทัลนั้นเป็นอันตรายต่อผู้ให้กู้ในอุตสาหกรรมมากเกินไป แต่แนวความคิดของการปล่อยสินเชื่อ crypto ยังคงสามารถอยู่รอดได้ ตามที่ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมบางคนกล่าว
การให้ยืมสกุลเงินดิจิทัล เป็นบริการประเภทหนึ่งที่อนุญาตให้ผู้ยืมใช้สินทรัพย์ Crypto ของตนเป็นหลักประกันในการรับเงินกู้ในสกุลเงิน Fiat เช่น ดอลลาร์สหรัฐ หรือเหรียญ stablecoin เช่น Tether ( USDT ) โดยวิธีนี้ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับเงินโดยไม่ต้องขายเหรียญและชำระคืนเงินกู้ในภายหลัง
ตามที่ Josef Tětek นักวิเคราะห์ Bitcoin ( BTC ) ของบริษัท Trezor ซึ่งเป็นบริษัทกระเป๋าเงินคริปโต (Crypto cold wallet) ระบุว่าบริษัทคริปโตที่ดำเนินธุรกิจโดยใช้เงินสำรองแบบ fractional-reserve มีความเสี่ยงมากขึ้นในช่วงตลาดหมี
ในรูปแบบการธนาคารแบบดั้งเดิม รูปแบบของ fractional-reserve คือระบบที่มีเงินฝากเพียงเศษเสี้ยวเดียวที่ได้รับการสนับสนุนจากเงินสดจริง ขณะที่บริษัทให้กู้ยืมคริปโตนั้นเป็นการ “ดำเนินธุรกิจแบบ fractional-reserve อย่างแน่นอน” เพื่อให้ผลตอบแทนแก่ลูกค้าของพวกเขา ตามรายงานของ Tětek
“เว็บเทรดและผู้ดูแลที่ใช้ fractional-reserve กำลังเล่นกับไฟ แนวทางปฏิบัตินี้อาจใช้ได้ดีในช่วงตลาดกระทิง เมื่อบริษัทมีการไหลเข้าสุทธิและมีการขยายฐานลูกค้า” ผู้บริหารกล่าว
จากข้อมูลของ Tětek การลดลงอย่างรวดเร็วของราคา cryptocurrency นั้น ธุรกิจ crypto ที่ไม่ได้ให้บริการสินเชื่อและไม่ใช้เงินฝากของผู้ใช้จะสามารถทนได้มากกว่า ซึ่งวิธีนี้ช่วยให้พวกเขาเอาตัวรอดจากผลกระทบจากราคาที่ตกต่ำ
“หากคุณทุ่มไปกับเลเวอเรจ — ซื้อขายด้วยเงินที่ยืมมา — การขาดทุนมักจะเจ็บปวดกว่ามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อราคาเคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน” Tětek กล่าว
และเพื่อให้สามารถอยู่รอดจากวิกฤตการให้กู้ยืมสกุลเงินดิจิทัล ผู้ให้กู้จำเป็นต้องแก้ปัญหาสำคัญที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ระยะสั้นและหนี้สินระยะสั้น “การให้กู้ยืม Crypto เป็นแนวคิดที่สามารถอยู่รอดในวิกฤตนี้ได้ แต่จำเป็นต้องแก้ปัญหาความไม่สมดุล : เช่นถ้าคนอื่นยืมทรัพย์สินของเราและเราจะได้ผลตอบแทน แต่เราต้องรอให้ผู้กู้ชำระคืนเงินก่อน เราถึงจะถอนได้”
Tětek กล่าวต่อไปว่าปัญหาสภาพคล่องเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับผู้ให้กู้ที่สัญญาว่าจะมีสภาพคล่องเต็มรูปแบบในสินทรัพย์ที่มีการให้ยืมออกในเวลาเดียวกัน
“ผู้เข้าร่วมทุกคนต้องเคารพความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องและความจริงที่ว่าไม่มีเงินช่วยเหลือในพื้นที่นี้ ดังนั้นหากผู้กู้ไม่ชำระคืน ผู้ให้กู้ต้องยอมรับการสูญเสียของตน เนื่องจากไม่มีผลตอบแทนที่ปราศจากความเสี่ยง และบ่อยครั้งที่ผลตอบแทนไม่คุ้มกับความเสี่ยง” เขากล่าวเสริม
อุตสาหกรรมการให้กู้ยืมเงินคริปโต (crypto) กำลังเผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ท่ามกลางราคาคริปโตเคอเรนซี (cryptocurrency) ที่ลดลงถึงระดับเดียวกับปี 2020 โดยมูลค่าตลาดรวมลดลงมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ตั้งแต่ต้นปี
