Square Enix บริษัทเกมยักษ์ใหญ่ได้เปิดเผยในรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ว่าจะขยาย NFT ไปสู่ผลิตภัณฑ์เกมมากขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ธุรกิจระยะกลางในปี 2022
Square Enix (SE) เป็นผู้พัฒนาเกมจากญี่ปุ่นที่มีทรัพย์สิน 3 พันล้านดอลลาร์ภายใต้การบริหารตาม โดยได้รายงานผลประกอบการล่าสุด ระบุว่าได้ขายแฟรนไชส์ Tomb Raider ไปในราคา 300 ล้านดอลลาร์เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม
รายงานระบุว่าบริษัทได้ทดลองใช้ NFT ในเกม Shi-San-Sei Million Arthur เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ซึ่งความสำเร็จของโครงการนำร่องจะนำไปสู่ซีซันที่สองของ NFT ของเกม และท้ายที่สุดจะเห็นบริษัทดำเนินกิจกรรมในวงกว้างในอุตสาหกรรม NFT และบล็อกเชน
ในบรรดาลำดับความสำคัญสูงสุดนั้น Square Enix มีแผนในการสร้างความชัดเจนด้านกฎระเบียบและแนวทางสำหรับเกมบล็อคเชน รวมถึงการแก้ปัญหาความสามารถในการปรับขนาดในระบบเศรษฐกิจ NFT และพิจารณาการก่อตั้ง capital venture ขององค์กร
บริษัทยังระบุด้วยว่ามีแผนในการจัดตั้งหน่วยงานในต่างประเทศที่จะจัดการ “การออก , การจัดการ , และการลงทุนโทเค็นของเราเอง” โดยแนะนำว่าบริษัทจะเริ่มสร้างเศรษฐกิจ gamingtoken ที่กว้างขวาง
SE ยังได้ทำงานร่วมกับเกม Web3 และบริษัทร่วมทุน Animoca Brands เพื่อสำรวจตัวเลือกต่าง ๆ ในพื้นที่เกมบล็อคเชน ซึ่งความร่วมมือระหว่างทั้งสองบริษัทคาดว่าจะเติบโตขึ้นในขณะที่ SE เจาะลึกเข้าไปในระบบนิเวศ
Yat Siu ประธานบริหารของ Animoca เชื่อว่าอิทธิพลของ Square Enix ในเกมจะมีส่วนช่วยอย่างมาก “Square Enix ได้พูดถึงศักยภาพของเกมบล็อคเชนมาเป็นเวลานานแล้ว ดังนั้นพวกเขาจะทำได้ดีกว่าเกมยักษ์ใหญ่ทั่ว ๆ ไป”
รายงานระบุว่าการลงทุนและสร้างรายได้จากบล็อคเชน , ปัญญาประดิษฐ์ (AI) , และ cloud computing เป็นเป้าหมายที่สามในกลยุทธ์ทางธุรกิจระยะกลาง ซึ่งสอดคล้องกับความตั้งใจของ CEO Yosuke Matsuda ที่จะให้บริษัทของเขามีส่วนร่วมในเทคโนโลยีเหล่านั้นมากขึ้นในเดือนมกราคม