Andre Cronje อดีตที่ปรึกษาด้านเทคนิคของ Fantom Foundation และผู้ก่อตั้ง Yearn.finance ปรากฏตัวอีกครั้งในวันจันทร์ผ่าน Medium หลังจากประกาศออกจากวงการ DeFi และ crypto ไปเมื่อเดือนที่แล้ว โดยในโพสต์ชื่อ “การเพิ่มขึ้นและการล่มสลายของวัฒนธรรม crypto” Cronje ได้แสดงความเสียใจต่อวัฒนธรรม crypto ในขณะที่เขาเรียกร้องให้มีกฎระเบียบและการออกกฎหมายที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรม
Andre and I have decided that we are closing the chapter of contibuting to the defi/crypto space.
— Anton Nell (@AntonNellCrypto) March 6, 2022
There are around ~25 apps and services that we are terminating on 03 April 2022.
1/3
Cronje ได้จัดลำดับความสำคัญของ “ความมั่งคั่ง สิทธิ ความสมบูรณ์ และ ego” ซึ่งกดขี่หลักการของ “สิทธิอธิปไตยในตนเอง , การดูแลตนเอง , และการเสริมอำนาจในตนเอง” และเขายังเตือนด้วยว่าหากวัฒนธรรมยังคงดำเนินต่อไปตามเส้นทางปัจจุบัน มันจะกลายเป็น “ดินแดนรกร้าง” ที่ซึ่ง “กระเป๋าเงินที่ไม่รู้จักแฝงตัวอยู่ในเงามืด”
แนวทางการแก้ไขปัญหาที่เขาเสนอสำหรับ “ยุคใหม่” ของเศรษฐกิจบล็อคเชนคือกฎระเบียบ โดย Cronje เชื่อว่าการออกกฎหมายเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการหยุดชุมชน crypto จากการเอานิ้วไปเสียบเข้ากับเต้ารับไฟฟ้า “วันหนึ่งพวกเขาจะเข้าใจ แต่ไม่ใช่วันนี้” เขากล่าว
“อนาคตต้องขับเคลื่อนด้วยความไว้วางใจ ไม่ใช่ความไม่ไว้วางใจ” และความโลภ ขณะที่ตามโปรไฟล์ LinkedIn ของ Cronje ปัจจุบันเขาดูแล SegWit Holdings ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม investment banking
ปฏิกิริยาต่อ Cronje บน Twitter นั้นไม่ได้สนับสนุนความคิดของเค้ามากนัก ผู้ใช้เช่น ” @IAMLLUCIANA ” และ “0xCana” ชี้ให้เห็นถึงการกระทำของ Cronje ที่ประชดประชันว่าเป็นคนที่สร้างความมั่งคั่งจากสกุลเงินดิจิทัลกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ แล้วก็ออกไปจากพื้นที่ แต่กลับมาต่อต้าน “ความคิดที่ร่ำรวยอย่างรวดเร็ว” และสนับสนุนกฎระเบียบที่เข้มงวด แล้วจึงก่อตั้งบริษัท banking company
andre cronje with the gigagrift walking away with over *1 billion dollars* generated from crypto and then exits the space, rails against “get rich quick mentalities” and advocates for strict regulations and then founds an investment banking company
— 0xCana (@0xCana) April 18, 2022
incredible