ธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีนหรือ PBoC ซึ่งเป็นธนาคารกลางของประเทศได้อ้างในบันทึกล่าสุดว่า ส่วนแบ่งของจีนในการทำธุรกรรม Bitcoin ( BTC ) ทั่วโลกลดลงอย่างรวดเร็วจาก 90% เหลือเพียง 10%
สำนักงานความมั่นคงทางการเงินของธนาคารกลางจีนได้ออกรายงานในวันพุธ โดยกล่าวถึงผลกระทบของการปราบปราม Bitcoin ในตลาดการเงิน โดยอ้างว่าการซื้อขายแบบ Peer-to-Peer ทั้งหมดในประเทศได้ถูกกำจัดให้หมดสิ้น ซึ่งในที่สุดก็ระงับการโฆษณาเกี่ยวกับธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัลได้
“สัดส่วนธุรกรรม Bitcoin ทั่วโลกในประเทศจีน ลดลงอย่างรวดเร็วจากมากกว่า 90% เหลือเพียง 10% โดยปราบปรามกิจกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง เช่น การจัดการด้านการเงินและการปราบปรามอาชญากรรมที่ระดมทุนอย่างผิดกฎหมาย”
จีนเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ยืนหยัดต่อต้านการใช้ crypto ตั้งแต่ต้น โดยการห้ามครั้งแรกของประเทศเกิดขึ้นในปี 2013 เมื่อทำการห้ามไม่ให้ธนาคารจัดการธุรกรรม Bitcoin
ตามมาด้วยการห้ามเว็บเทรดสกุลเงินดิจิทัลในท้องถิ่นในปี 2017 ทำให้พวกเขาต้องปิดกิจการโดยสิ้นเชิง และภายหลังประเทศได้เพิ่มความพยายามในการปราบปรามในปี 2021 อย่างการขจัดการขุด Bitcoin ออกจากประเทศ และภายในเดือนกันยายน 2021 มีการถือว่าธุรกรรมคริปโตทั้งหมดนั้นผิดกฎหมาย
ตามข้อมูลจาก Statista ส่วนแบ่งประจำปีของปริมาณการซื้อขาย Bitcoin ในสกุลเงินหยวน ลดลงจนเกือบเป็นศูนย์ ภายในปี 2018