Sam Bankman-Fried CEO ของ FTX อธิบาย “วิธีสร้างเว็บเทรดคริปโตมูลค่ากว่า 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์ภายใน 3 ปีได้อย่างไร” และกลายเป็นเศรษฐีพันล้านในวัยเพียง 29 ปี!

ผู้คนจำนวนมากได้กลายเป็นเศรษฐีอย่างรวดเร็วจากวงการคริปโต แต่มีเพียงไม่กี่คนที่รวยได้เร็วกว่า Sam Bankman-Fried

Sam Bankman-Fried เขามีมูลค่าทรัพย์สินรวมทั้งหมดกว่า 24.5 พันล้านดอลลาร์ตามข้อมูลของ Forbes ถึงแม้ว่านั่นอาจจะถูกประเมินต่ำไปก็ตาม

ฉันคิดว่ามันถูกต้องในขณะที่พวกเขากำลังเขียนมันนะ” Bankman-Fried กล่าวกับ Insider ในสัปดาห์นี้ “แต่ตอนนี้ฉันว่ามันน่าจะสูงขึ้นนิดหน่อย

แหล่งที่มาของความมั่งคั่งของ Bankman-Fried นั้นคือ เว็บเทรด FTX ซึ่งเขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งในปี 2019 และปัจจุบันเป็นหนึ่งในเว็บเทรดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย

เว็บเทรดที่บาฮามาสมีมูลค่าสูงถึง 32 พันล้านดอลลาร์เมื่อเดือนที่แล้ว หลังระดมทุนได้กว่า 400 ล้านดอลลาร์จากบริษัทการลงทุนยักษ์ใหญ่ อย่าง SoftBank, Tiger Global และ Temasek อีกทั้งบริษัทลูกในสหรัฐฯ มีมูลค่าถึง 8 พันล้านดอลลาร์

เว็บเทรด FTX มีมูลค่าทรัพย์สินสูงกว่า Twitter, ตลาดหุ้นยักษ์ใหญ่อย่าง Nasdaq และธนาคาร Deutsche ของเยอรมนี ซึ่งถือว่าไม่แย่สำหรับบริษัทที่เพิ่งก่อตั้งมาได้เพียง 3 ปี

Bankman-Fried จบการศึกษาจาก MIT ด้วยปริญญาสาขาฟิสิกส์ จากนั้นในปี 2014 เขาได้ทำงานเป็นเทรดเดอร์ที่ Jane Street บริษัทเทรดระดับโลกใน Wall Street สามปีต่อมา เขาได้ก่อตั้งบริษัทเทรดคริปโตของตนเองที่ชื่อว่า Alameda Research และในไม่ช้า บริษัทก็สามารถทำเงินได้อย่างมหาศาล โดยใช้ประโยชน์จากความคลาดเคลื่อนของราคาในตลาดโลก

ในปี 2018 เขาตระหนักได้ว่าเว็บเทรดคริปโตที่ทำอยู่นั้นไม่ค่อยดีนัก ทั้งผิดพลาด ไม่ปลอดภัย และไม่มีการสนับสนุนลูกค้าเลย

คุณอาจจะรู้สึกว่ามันระบบที่เป็นศูนย์กลาง สำคัญ และมีค่าจริงๆ แต่ตอนนี้มันแย่จริงๆ และเราสามารถทำได้ดีกว่านี้” เขากล่าว

Bankman-Fried และ Gary Wang ผู้ร่วมก่อตั้งของเขา ( Gary Wang  สำเร็จการศึกษาจาก MIT และเป็นอดีตวิศวกรซอฟต์แวร์ของ Google) คิดว่าพวกเขาน่าจะมีความรู้ด้านเทคนิคในการสร้างเว็บเทรดได้

คำถามสำคัญก็คือ พวกเขาจะสามารถดึงดูดลูกค้าได้หรือไม่? “คำตอบที่ได้คืออยู่ในช่วงอาจจะไม่ถึงไม่ได้เลย” Bankman-Fried กล่าว “ฉันเป็นคนมองโลกในแง่ดีมากๆ แต่ราวๆที่ 20%

แต่ลูกค้าก็ทยอยเข้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนเริ่มพูดถึงเว็บเทรดใหม่บนโซเชียลมีเดียและบอกต่อๆกัน จนมีลูกค้าเพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ในปี 2564: FTX มีผู้ใช้ 5 ล้านคนภายในสิ้นปี โดยมีวอลุ่มในแต่ละวันพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งแตะ 6 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพฤษภาคม

อ่านโปรไฟล์ Insider ของเดือนธันวาคม: Sam Bankman-Fried ผู้ก่อตั้ง FTX เขานอนเพียง 4 ชั่วโมงต่อวันและเขาทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ถึง 6 หน้าจอพร้อมกัน โดยคนวงในจะอธิบายว่ามหาเศรษฐีคริปโตวัย 29 ปีคนนี้เป็นอย่างไร และตอบคำถามยากๆ ที่บริษัทของเขากำลังเผชิญอยู่

ส่วนสำคัญของความสำเร็จของ FTX คือ การ crash เกิดขึ้นน้อยมาก Bankman-Fried กล่าว ยิ่งไปกว่านั้น นักเทรดจะถูกดึงดูดโดยนโยบายของพวกเขาที่จะอนุญาตให้มีบัญชีเดียวโดยที่ยอดมาร์จิ้นจะหักล้างกัน มากกว่าจะให้มีบัญชีมาร์จิ้นจำนวนมาก (Margin หมายถึง การยืมเงินจากโบรกเกอร์ที่ทำการเทรดด้วย)

และนักเทรดต่างก็ชื่นชอบคริปโตอนุพันธ์ที่ซับซ้อน ซึ่ง FTX เชี่ยวชาญในด้านนี้ ซึ่งมันทำให้พวกเขาสามารถเดิมพันราคาในอนาคตของโทเค็นหลักอย่างเช่น bitcoin และ ethereum ได้

อย่างไรก็ตาม ในฐานะศูนย์กลางของการเทรดที่มีความเสี่ยง ทำให้บริษัท FTX อยู่ในสายตาของหน่วยงานกำกับดูแลและผู้ออกกฎหมาย

Bankman-Fried พบว่าตัวเองอยู่ในสภาคองเกรสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยวุฒิสมาชิก Sherrod Brown ถามเขาว่า : “มันเป็นเรื่องที่ประมาทหรือไม่ที่จะให้บริษัทคริปโตร่ำรวยจากการขายสินค้าอันตรายและมีความเสี่ยงให้กับคนอเมริกัน?

ลูกค้าของ FTX ประมาณ 50/50 แบ่งเป็นนักลงทุนรายย่อยและสถาบันการลงทุน แต่สถาบันการลงทุน อย่างเช่น บริษัท high-frequency trading, hedge funds และสำนักงานธุรกิจครอบครัว เป็นรายได้ประมาณ 80% ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งต่างจาก Coinbase ที่เป็นเว็บเทรดที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ซึ่งได้รับรายได้ส่วนใหญ่จากนักลงทุนรายย่อย

จากช่วงเริ่มต้นที่มีพนักงานเพียง 4 คน ในปัจจุบัน FTX มีพนักงานประมาณ 250 คน ตรงกันข้ามกับ Deutsche Bank ที่มีมูลค่าบริษัทน้อยกว่า FTX ถึง 4 พันล้านดอลลาร์ แต่กลับมีจำนวนพนักงานมากกว่า 80,000 คนนักลงทุนหมดหวังที่จะได้รับส่วนแบ่งจากเว็บเทรด แต่ Bankman-Fried กล่าวว่า เขาไม่รู้สึกกดดันที่จะเปิดเผยต่อสาธารณะว่า “เราไม่ต้องการเงินทุน เราสามารถทำกำไรเองได้” เขากล่าว “เราจะทำทุกอย่างที่คิดว่าใช่สำหรับบริษัท

อ้างอิง : LINK

Share on facebook
Share on twitter
Share on linkedin

Radius

ผู้เชี่ยวชาญการเขียนข่าว บทความ ที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin , คริปโตเคอเรนซี่ และ Blockchain ทั้งในไทยและต่างประเทศ อัพเดทราคา มุมมองการลงทุน ใหม่ล่าสุดทุกวัน
ข่าวต่อไป