ปี 2022 จะเป็นปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับ “the metaverse” หรือซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่อนุญาตให้ผู้ใช้เล่นหรือทำงานในพื้นที่ 3 มิติเสมือนจริง รายงานจาก CNBC
ตามข้อมูลของ Crunchbase พบว่านักลงทุน VC มีการลงทุนมากถึง 10 พันล้านดอลลาร์ในสตาร์ทอัพที่เกี่ยงข้องกับโลกเสมือนจริงในปี 2021 และตัวเลขนี้ยังไม่นับรวมงบประมาณจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ตัวอย่างเช่น Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta ที่กล่าวว่าบริษัทใช้เงินจำนวนมากไปกับ VR และ AR ในปี 2021 ซึ่งทำให้กำไรของบริษัทลดลง 10 พันล้านดอลลาร์
ขณะที่ นักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs คาดการณ์ว่าจะมีการลงทุนมากถึง 1.35 ล้านล้านดอลลาร์ในการพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
CNBC ยังคาดการณ์ถึงจุดยืนของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่และสิ่งที่พวกเขาคาดว่าจะเปิดตัวในปีนี้เกี่ยวกับ Metaverse
Meta
![](https://bitcoinaddict.org/wp-content/uploads/2022/01/106930282-16293712902021-08-19t110129z_666437093_rc2h0o9qzspl_rtrmadp_0_facebook-virtualreality-work.jpg)
Facebook นอกจากเปลี่ยนชื่อเป็น Meta เพื่อสะท้อนถึงความสนใจใหม่ของบริษัทแล้ว Meta ยังเป็นผู้นำเหนือคู่แข่งรายใหญ่ โดยปัจจุบันเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายฮาร์ดแวร์ VR รายใหญ่ และคิดเป็น 75% ของตลาดในปี 2021
แอป Oculus ยังกลายเป็นแอปยอดนิยมอันดับ 1 ใน App Store อเมริกาในช่วงวันคริสต์มาส ซึ่งต้องใช้คู่กับอุปกรณ์ Quest 2 headset
แม้ว่า Meta จะไม่ได้เปิดเผยตัวเลขยอดขายของเจ้าอุปกรณ์ VR อย่าง Oculus Quest 2 แต่ทางด้าน Qualcomm ซึ่งเป็นผู้ทำชิปของ Quest คาดว่าบริษัทจะจัดส่งได้ 10 ล้านเครื่องในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
Qualcomm's CEO today said that Oculus Quest 2 had shipped 10 million units — spokesperson tells me that the number was based on third-party market size estimates and isn't an official disclosure of sales from Meta or Qualcomm pic.twitter.com/aVWEIOI8PS
— kif (@kifleswing) November 16, 2021
บริษัทยังได้เปิดตัวแพลตฟอร์มโซเชียลชื่อ Horizon Worlds ซึ่งผู้คนสามารถเข้าร่วมเพื่อรับชมการแสดงรวมถึงชมภาพยนตร์ยามค่ำคืนในโลกเสมือนจริงของ Facebook นอกจากนี้ Meta ยังเข้าซื้อกิจการบริษัทหลายแห่งที่สร้างแอปยอดนิยมสำหรับ Oculus
Apple
![](https://bitcoinaddict.org/wp-content/uploads/2022/01/106893373-1623091317604Screen-Shot-2021-06-07-at-2-37-18-PM-png.jpg)
Apple ไม่เคยพูดถึงผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ใหม่ ๆ เกี่ยวกับ AR หรือ VR จนกว่าที่บริษัทจะพร้อมที่จะเปิดเผย แต่ Apple ก็มีการวางรากฐานสำหรับหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สำคัญ โดย iPhone รุ่นใหม่นั้นมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ Lidar ซึ่งสามารถวัดว่าวัตถุว่าอยู่ไกลแค่ไหนได้ นอกจากนี้ยังมีซอฟต์แวร์ที่เรียกว่า ARkit ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอพที่ใช้เซ็นเซอร์ของ iPhone สำหรับการทำแผนที่ห้องที่แม่นยำและการแปลเป็นภาษาท้องถิ่น
Google เคยเปิดตัว Google Glass ในปี 2013 แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับที่ดี แต่เหมือนจะยังไม่ยอมแพ้ เนื่องจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่า Google กำลังจริงจังกับ augmented reality อีกครั้ง
ในปี 2020 Google ได้ซื้อ North ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพที่มีเงินทุนสูงซึ่งทำงานเกี่ยวกับแว่นตา AR น้ำหนักเบา ซึ่งนี่อาจเป็นตัวสืบทอดทางจิตวิญญาณในแง่ของฟังก์ชันการทำงานของ Google Glass นอกจากนี้ Google ยังมีทีมใหม่ที่มุ่งเน้นไปที่ระบบปฏิบัติการสำหรับ augmented reality ตามโพสต์ที่แบ่งปันโดย Mark Lucovsky ผู้อำนวยการอาวุโสในเดือนธันวาคม โดยก่อนร่วมงานกับ Google นั้น Lucovsky เคยทำงานกับ Oculus ของ Meta มาก่อน
นอกจากนี้ตามประกาศรับสมัครงานนั้นพบว่า Google มีการจ้างงานอย่างจริงจังสำหรับทีมที่กำลังทำงานใน ”อุปกรณ์ AR ที่เป็นนวัตกรรม”
Microsoft
![](https://bitcoinaddict.org/wp-content/uploads/2022/01/105835540-1554469889602image12.jpg)
Microsoft เป็นบริษัท Big Tech แห่งแรกที่เปิดตัว HoloLens ชุดหูฟัง AR ที่มีคุณลักษณะครบถ้วนในปี 2016 แต่ในปัจจุบันยังคงห่างไกลจากอุปกรณ์ที่ผู้บริโภคจะสวมใส่ได้เป็นประจำ โดยปัจจุบัน Microsoft ได้มุ่งเน้นที่ตลาด ”องค์กร” หรือการขายชุดหูฟังให้กับธุรกิจที่มีราคาปลีกอยู่ที่ 3,500 เหรียญสหรัฐ โดยลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของ HoloLens คือกองทัพสหรัฐฯ
ในเดือนมีนาคม บริษัทได้ประกาศเปิดตัวแพลตฟอร์มโลกเสมือน Mesh ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถสร้างตัวแทน (avatar) เดินทางในโลกเสมือน วางวัตถุให้ผู้ใช้คนอื่นเห็น โดยตัวแพลตฟอร์มจะซิงก์ข้อมูลระหว่างผู้ใช้แต่ละคนให้เอง รวมถึงการส่งข้อมูลเสียงก็สามารถบอกทิศทางเสียงได้เหมือนอยู่ในห้องเดียวกันจริงๆ โดยฟีเจอร์ซอฟต์แวร์ metaverse เหล่านี้จะเปิดตัวในปี 2022