กลุ่มผู้สนับสนุนลิขสิทธิ์ดิจิทัล Fight for the Future, Blockchain Game Alliance, Enjin และบริษัทเกมบล็อคเชน 26 แห่ง ได้เรียกร้องให้ Valve บริษัทวิดีโอเกม ตัดสินใจใหม่อีกครั้งเกี่ยวกับเรื่องการไม่อนุญาตเกมที่มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ cryptocurrencies หรือโทเค็น NFT ผ่านตลาด Steam
ตามจดหมายเปิดผนึกที่เผยแพร่โดย Fight for the Future เมื่อวันที่ 26 ต.ค. บริษัทและโครงการต่าง ๆ กำลังขอให้ Valve กลับการตัดสินใจ และให้โอกาสกับเทคโนโลยี crypto และ blockchain โดยก่อนหน้านี้ Steam ได้อัปเดตในวันที่ 14 ต.ค. เพื่อกำหนดว่าจะต้องไม่มีแอปพลิเคชันที่สร้างขึ้นจากเทคโนโลยีบล็อคเชนที่ “อนุญาตให้มีการแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซีหรือ NFT”
“เกมบล็อคเชนกำลังบุกเบิกแนวคิดใหม่ ที่จะเติมพลังให้กับอุตสาหกรรมเกมสำหรับผู้เล่นและผู้เผยแพร่” Sebastien Borget ประธานกลุ่มพันธมิตรเกมบล็อคเชนกล่าว “การตัดส่วนที่กำลังเติบโตนี้ในขั้นตอนสำคัญของการพัฒนา คือการเพิกเฉยต่อความก้าวหน้าที่โดดเด่นที่เราได้บรรลุในปีนี้ และเป็นการสร้างการเข้าถึงตลาดอย่างไม่เป็นธรรม”
จากข้อมูลของ Fight for the Future , DAO และ NFT สามารถช่วยทำให้เกมบล็อคเชน “มีระบบที่กระจายอำนาจ , ประชาธิปไตย , มีการโต้ตอบ , และเน้นผู้เล่นมากขึ้น”
“โปรดพิจารณาเปลี่ยนจุดยืนของคุณในประเด็นนี้และอนุญาตให้ใช้โทเค็น และการใช้เทคโนโลยีบล็อคเชนบนแพลตฟอร์ม Steam ในวงกว้างยิ่งขึ้น และโปรดอย่าแบนเกมที่ใช้บล็อคเชนบน Steam”
การแบนเนื้อหา NFT และเกมบล็อคเชน อาจทำให้ Valve เสียเปรียบทางการเงิน เนื่องจากเทคโนโลยีนี้กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยหากมองจากกระเป๋าเงินที่มีการใช้งาน ที่มีการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่นเกมที่กระจายอำนาจนั้น มีสูงถึง 754,000 กระเป๋า ในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ และเกมจำนวนมากก็เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้รับรางวัลโทเค็นในโลกแห่งความเป็นจริงและแลกเปลี่ยน NFT ในเกมซึ่งเป็นเส้นทางที่เป็นไปได้ในการปรับใช้ crypto ต่อไป
“ระบบนิเวศของเกมบล็อคเชน มีศักยภาพจะเติบโตขึ้นเป็นสิ่งที่ใหญ่กว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ภายในสิ้นทศวรรษนี้ การทำงานร่วมกันเพื่อสร้างมาตรฐานที่รอบคอบและสามารถทำงานร่วมกันได้นั้นเป็นผลประโยชน์สูงสุดของทุกคน เพื่อไม่ให้ multiverse มีการแยกส่วนกันมากเกินไป” Enjin CTO Witek Radomski กล่าว