หลังจาก Bitcoin พุ่งไปถึงระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 67,000 ดอลลาร์เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ราคาก็ตกลงเกือบ 10% และมีเรทการซื้อขายที่ระดับใกล้ๆ 61,000 ดอลลาร์ ณ เวลาปัจจุบัน แม้ว่า Bitcoin retracement จะดูไม่ใช่เรื่องใหม่ที่น่าตื่นเต้นอะไร แต่นักวิเคราะห์ยังคงเชื่อใน Bitcoin
Jurrien Timmer ผู้อำนวยการ Global Macros ของ Fidelity คาดการณ์ว่าราคา BTC จะยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตามโมเดลอุปสงค์และอุปทาน
ในการสัมภาษณ์กับ CNBC เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา Timmer กล่าวว่าราคา BTC จะสูงถึง $100K ภายในปี 2023
แต่แน่นอนว่า Timmer ไม่ได้คาดหวังว่าราคา BTC จะพุ่งตรงไปถึง $100K เลยทีเดียว เพราะเขาเสริมว่าอาจมีการถอยลงของราคาได้บ้าง
ดังนั้น เมื่อเปรียบเทียบกับราคาทองคำที่พุ่งขึ้นจากเหตูการณ์ Gold Rally ในปี 1970 เขาจึงเสริมว่า:
“…เมื่อคำนึงถึงความคล้ายคลึงเหตุการณ์ในช่วงปี 1970 ผมจะไม่แปลกใจเลยที่จะเห็นการเพิ่มขึ้นตามด้วยการพักตัว ซึ่งจะคล้ายกับวัฏจักร Boom Busts ก่อนหน้าของ bitcoin มาก ซึ่งสามารถบอกได้เลยว่าราคาของมันไม่มีทางเพิ่มขึ้นเป็นกราฟเส้นตรงเพียงอย่างเดียว…”
ในระหว่างการสัมภาษณ์ CNBC เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา Timmer กล่าวว่า
“…Bitcoin เป็นทองคำในเวอร์ชั่นที่แปลกกว่า เนื่องจากมันมีเรื่องของอุปทานต่างๆมากมาย และทองคำยังไม่มีไดนามิกของเครือข่ายอย่างที่ bitcoin มี ดังนั้นมันจึงสมเหตุสมผลนะที่ bitcoin จะมีประสิทธิภาพเหนือกว่าทองคำ…”
เขายังกล่าวเสริม ว่า
“…Bitcoin และทองคำนั้นเปรียบเหมือนผู้เล่นสองคนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ที่ต้องเล่นอยู่ในทีมเดียวกัน…”
เมื่อถามความเห็นเกี่ยวกับราคา BTC ล่าสุด Timmer กล่าวว่านี่ไม่ใช่แค่การเก็งกำไรเพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นราคาที่จะเป็นไปในระยะยาวอีกด้วย เขาเสริมว่า:
“…ครั้งนี้ผมค่อนข้างมั่นใจว่านี่เป็น movement ในระยะยาวที่ค่อนข้างยั่งยืน และไม่ใช่ Bubble ที่ไม่รู้ว่าจะแตกเมื่อไหร่…”
บริษัท Fidelity ได้เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างโครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับ Bitcoin นอกจากนี้ยังได้มีการหารือกับหน่วยงานกำกับดูแลในการสร้างกรอบการกำกับดูแลที่เหมาะสมเกี่ยวกับ Bitcoin ในอนาคต
Timmer นั้นไม่ใช่คนเดียวที่ทำนายการเพิ่มขึ้นครั้งใหญ่ของ BTC ในอนาคต โดยในวันศุกร์ที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา นักวิเคราะห์คริปโตอย่าง Lark Davis ก็กล่าวว่าอีกหกเดือนข้างหน้าจะเป็นการพลิกแพลงปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ของ Bitcoin