สหรัฐอเมริกา (US) ได้ทำลายการผูกขาดของจีนในตลาดการขุด Bitcoin อย่างเป็นทางการ และกลายเป็นศูนย์กลางการขุด BTC ชั้นนำ หลังจากที่จีนครองตำแหน่งการขุด BTC เป็นระยะเวลากว่าทศวรรษที่ผ่านมาและคิดเป็นกว่า 70% ของการขุด Bitcoin อย่างไรก็ตามการปราบปรามคริปโตล่าสุดในประเทศโดยเฉพาะเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน นำไปสู่การอพยพครั้งใหญ่ของฟาร์มขุด Bitcoin ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
นักขุดส่วนใหญ่ที่ย้ายฐานจากจีนไปยังสหรัฐอเมริกา คาซัคสถาน และรัสเซีย จากข้อมูลของเคมบริดจ์รายงานว่า ในสหรัฐอเมริกาคิดเป็น 35.4% ของผู้ขุด Bitcoin ตามด้วยคาซัคสถานที่ 18.1% และรัสเซีย 11%
ปัจจุบันแทบจะไม่หลงเหลือผู้ขุดในประเทศจีนแล้ว ดังที่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าการปราบปราม crypto เมื่อเร็ว ๆ นี้นำไปสู่การอพยพของผู้ขุดอย่างน้อย 95% ในประเทศ ขณะที่ Michel Rauchs หัวหน้าฝ่ายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ Cambridge Center for Alternative Finance อธิบายว่า
“ผลกระทบโดยทันทีจากการที่รัฐบาลจีนสั่งห้ามขุด crypto นั้นเป็นการลดลงถึง 38% ของเครือข่าย hash rate ทั่วโลกในเดือนมิถุนายน 2021 ซึ่งสอดคล้องกับส่วนแบ่ง hash rate ของจีนโดยประมาณก่อนการปราบปราม บ่งชี้ได้ว่านักขุดชาวจีนหยุดดำเนินการพร้อมกันโดยทันที ”
การเปลี่ยนแปลงเชิงประชากรของการขุด Bitcoin
เชื่อว่าการปราบปราม crypto ของจีนมีสาเหตุมาจากเหตุผลสำคัญ 2 ประการ เหตุผลแรกคือความสมดุลของการปล่อยคาร์บอนในปักกิ่ง และประการที่สองคือปัญหาการขาดแคลนถ่านหินที่เพิ่มขึ้นในประเทศ ในขณะที่ฟาร์มขุด Bitcoin ในพื้นที่ชนบทใช้พลังงานน้ำ ส่วนฟาร์มขุดในเมืองส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาถ่านหินเป็นอย่างมาก การปราบปรามอย่างเข้มงวดจึงได้กวาดล้างส่วนแบ่งของจีนอย่างสมบูรณ์
จนกระทั่งเดือนเมษายนปีนี้ ก่อนที่การปราบปรามจะเริ่มขึ้นในจีนนั้น สหรัฐฯ มีส่วนแบ่ง hash rate ทั่วโลกเพียง 16.8% ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในช่วงสี่เดือนที่ผ่านมา ด้านคาซัคสถานเพิ่มขึ้น 120% ตามด้วยรัสเซีย 61% ในขณะที่ hash rate ของเครือข่าย Bitcoin ลดลงเกือบ 70% ที่จุดสูงสุดของการปราบปรามของจีน แต่หลังจากนั้นก็เด้งกลับมาได้และกำลังใกล้ถึงระดับสูงสุดในตอนนี้