ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Crypto ของจีนกว่า 20 แห่งเปิดเผยว่าพวกเขาจะหยุดการดำเนินงานและถอนตัวออกจากตลาดในท้องถิ่น เนื่องจากประเทศยังคงมีท่าทีไม่เป็นมิตรต่อคริปโตใดๆ
ผลกระทบของการแบน Crypto ของจีน
ท่าทีเชิงลบของจีนต่ออุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัลเป็นที่ทราบกันมานานหลายปีแล้ว และหน่วยงานท้องถิ่นมักจะเตือนนักลงทุนเกี่ยวกับเรื่องนี้บ่อยครั้ง และ ณ สิ้นเดือนกันยายน ธนาคารกลางของประเทศก็ได้เผยแพร่เอกสารที่ระบุว่าการซื้อขายและการขุดสินทรัพย์ดิจิทัลจะถูกห้ามภายในเขตแดนของจีน นอกจากนี้ยังห้ามไม่ให้ผู้คนดำเนินการแลกเปลี่ยนดังกล่าว
หลังจากนั้นไม่นาน บริษัทที่เกี่ยวข้องกับ crypto หลายแห่งก็เริ่มปิดกิจการของตน ตามรายงานของ China Securities Journal จำนวนหน่วยงานเหล่านี้ มีมากกว่า 20 แห่ง ที่ต้องหยุดให้บริการและย้ายไปต่างประเทศ
เมื่อพูดถึงองค์กรดังกล่าว เป็นที่น่าสังเกตว่าการสั่งห้ามที่รุนแรงทำให้ Huobi ที่ระงับการลงทะเบียนผู้ใช้ใหม่ที่มาจากจีน และไม่กี่วันต่อมา หนึ่งใน pool ขุด Bitcoin ที่ใหญ่ที่สุด – Huobi Pool – ก็ได้ย้าย BTC มากกว่า $4 พันล้านดอลลาร์จากผู้ขุด ซึ่งเป็นการไหลเข้าของเงินทุนที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2017
การปราบปรามของจีนยังรวมไปถึง Sparkpool ด้วย ซึ่งเป็น pool ขุด ETH ที่ใหญ่เป็นอันดับสอง ที่ประกาศว่าได้ระงับการเข้าถึงผู้ใช้ใหม่ในจีนแผ่นดินใหญ่และยกเลิกบริการทั้งหมด ณ วันที่ 30 กันยายน
เหนือสิ่งอื่นใด รัฐบาลจีนได้ยึดอุปกรณ์เหมืองขุดในจังหวัดทางเหนือของมองโกเลียใน ซึ่งถือเป็นการยึดครั้งที่ 45 ในจังหวัดนั้น
แต่แม้ว่ารัฐบาลของประเทศที่มีประชากรมากที่สุดได้เพิ่มความพยายามเป็นสองเท่าในการหยุดการดำเนินการคริปโตเคอเรนซี (cryptocurrency) ที่เป็นไปได้ทั้งหมดภายในพรมแดน แต่ในที่สุด bitcoin ก็ต่อต้านการโจมตีได้ ซึ่งในความเป็นจริง ในขณะที่เขียนราคาของสินทรัพย์อยู่ที่ประมาณ 54,500 ดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณ 25% นับตั้งแต่การแบนครั้งล่าสุดของธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีน
Katie Haun ซึ่งเป็นหุ้นส่วนของ บริษัท Venture Capital Andreessen Horowitz (a16z) ได้เรียกร้องให้หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของอเมริกาทำสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่จีนได้ทำไปแล้ว:
“นี่เป็นโอกาสสำหรับสหรัฐอเมริกา เพราะเราควรจะทำสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่จีนกำลังทำอยู่นี้”
