เมื่อพูดถึงแนวเกม เชื่อว่าหนึ่งในแนวที่เกมที่เรานึกถึงมักจะมีแนว MMORPG Openworld อย่างแน่นอนเพราะด้วยความเสน่ห์เอกลักษณ์ของ Openworld ที่ทำให้ผู้เล่นได้มีอิสระในการเล่นและทำอะไรต่าง ๆ ในเกมได้หลายอย่าง ถ้าใครไม่รู้จักเกมแนวนี้จะขอยกตัวอย่างเกมโปเกมอนที่หลาย ๆ คนเคยเล่นและได้สร้างความทรงจำดี ๆ ให้กับใครต่อหลายคน
อย่างไรก็ตามวันนี้เราจะมารีวิวเกมแนว MMORPG บนโลกของคริปโตกัน เกมนี้ให้อารมณ์การเล่นประมาณโปเกมอน ที่ให้ผู้เล่นได้จัดทีม จัดธาตุของมอนสเตอร์ และให้ผู้เล่นได้ออกผจญภัยไปยังที่ต่าง ๆ ซึ่งเกมที่เราพูดถึงคือ Chainmonster นั่นเอง
Chainmonster คือ GameFi ที่ผสมระหว่างแนวการต่อสู้เป็นเทิร์น(Turn-based) และ MMORPG Openworld ที่เราเกริ่นมาข้างต้น โดยเกมนี้จะเป็นเกมที่เราสามารถพบเจอ Monster ได้กว่า 160 สายพันธุ์และแต่ละพันธุ์ก็จะมีลักษณะและความสามารถที่เป็นของตัวเอง ซึ่งเราสามารถต่อสู้หรือจับ Monster มาตั้งทีมของเรา และเอาไป Battle กับผู้เล่นอื่นได้ด้วย
และการรีวิวในวันนี้จะ Based on ตัว Beta (Alpha Access) เนื่องจากตัวเกมตัวเต็มนั้นจะเปิดให้เล่นในปีหน้า(2022) ดังนั้นข้อมูลที่รีวิวในส่วนนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต ถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มกัน!
ระบบ Openworld
เราสามารถออกเดินทางเพื่อผจญภัยได้อย่างอิสระ และก็จะมีอะไรให้ทำระหว่างทางอย่างเช่น PVP กับผู้เล่นอื่น, ต่อสู้และจับ Monster หรือเก็บกล่องเก็บของ(และอื่น ๆ อีกมากมายในอนาคต)
ระบบ Battle
โดยการต่อสู้นั้นจะเป็นแบบ Turn-Based (สลับกันตีตาม Stat ของมอนสเตอร์) ละก็จะมี 4 Actions ให้เราสามารถทำได้คือ
1. เปิดกระเป๋า – ใช้ Items ต่าง ๆ
2. สลับมอนสเตอร์ – เปลี่ยนมอนสเตอร์ในทีมของเรา
3. โจมตี – โดยการโจมตีจะมีสกิลธาตุหนึ่งสกิล และสกิลธรรมดาสองสกิล โดยทุกสกิลจะใช้ Enegy และถ้า Energy ไม่พอหรือน้อยก็สามารถเลือก Rest เพื่อฟื้นฟู Energy ได้
4. หนี(มุมบนขวา) – ในกรณีที่เราไม่อยากต่อสู้กับมอนสเตอร์
ซึ่งใน Alpha Access เราจะได้ exp.(หลอดสีฟ้า) จากการชนะเพื่อให้ level อัพ (ยังไม่มีไอเทมแต่น่าจะมีในอนาคต)
การเพิ่ม Level
จะเห็นได้ว่าการที่เราจะชนะหลักเลยคือมีมอนสเตอร์ที่โหด แต่เราขอยังไม่พูดถึงว่ามอนสเตอร์ตัวไหนโหดไม่โหดเพราะเนื่องจาก Alpha Access ยังมีมอนสเตอร์ให้เราเล่นน้อยจึงขอยังไม่ตัดสิน เพราะฉะนั้นที่ทำได้คือ อัพ Level ของมอนสเตอร์และอัพ Level ของสกิลมอนสเตอร์
Monster Level – สามารถอัพโดยใช้ Candy หรือ Battle เพื่ออัพเลเวล ยิ่งเยอะก็ยิ่งโหดนั่นเอง ซึ่งการอัพเลเวลจะมี 5 ขั้น ขั้นละ 10 เวล ถ้าอัพเลเวลในขั้นนั้น ๆ จนตันแล้วก็สามารถไปขั้นต่อไปได้โดยการ Increase Potential ซึ่งจะใช้ดอกไม้และ Gemstone ของธาตุมอนสเตอร์
Abilities Level – สามารถอัพโดยใช้ของที่กำหนด การอัพจะทำให้สกิลแรงขึ้น ซึ่งการอัพส่วนนี้จะทำให้มอนสเตอร์แข็งแกร่งกว่าตัวเลวลเดียวกันที่ไม่ได้อัพ
ทีนี้หลังจากดู Gameplay ที่เปิดใน Alpha Access แล้ว เรามาดู Economy ของเกมนี้ในอนาคตกัน
In-game Economy
Economy ส่วนนี้จะมี 2 Currencies
- In-game Currency – ได้รับจากการทำเควส, เข้ารวมอีเวนต์ หรือ Season Pass ซึ่งเงินส่วนนี้จะใช้ในการใช้จ่ายในเกม(เงินในส่วนนี้ไม่ใช่ NFT ซึ่งหมายความว่าเราต้องเล่นเกมเพื่อได้มาเท่านั้น)
- Premium Currency – เป็นการซื้อโดยตรงในแอพพลิเคชั่น(In-app Purchase) ผ่าน Stream, IOS, Andriod หรือผู้บริการอื่น ๆ อย่างเช่น Apple Pay ซึ่งเงินในส่วนนี้จะเอาไว้ใช้สำหรับการซื้อของต่าง ๆ ที่ได้รับสิทธิประโชน์พิเศษอย่างเช่น Season Pass, Time-Limited Drop และแพ็คเกจต่าง ๆ
Utility ของ NFT
เนื่องจากเกมนี้จะโฟกัสที่ NFT เป็นหลักเราเลยจะขอยกตัวอย่างการเอา NFT มาใช้ประโยชน์บนแพลตฟอร์มสักสองอย่าง
- Mint-Token – เหรียญนี้ไม่ใช่เหรียญที่เราสามารถซื้อขายบนเว็บ Exchange หรือ DEX เพราะเนื่องจากมันเป็น NFT และหน้าที่ของมันคือทำให้มอนสเตอร์ที่เราจับมานั้นกลายเป็น on-chain NFT โดยใช้ Mint Token หนึ่งอัน
- Gemstone – ประโยชน์คือนอกจาก Gemstone จะใช้ในการอัพ Potential ของตัวละครอย่างที่เราเกริ่นไปก่อนหน้าแล้ว มันยังเป็น NFT ที่เอาไว้ซื้อขายแลกเปลี่ยนได้อีกด้วย โดย Gemstone จะมีอยู่ 4 ระดับคือ Common, Rare, Epic และ Legendary เฉพาะระดับ Epic และ Legendary เท่านั้นที่จะเป็น NFT โดยสามารถได้รับจากการคราฟหรือผสม Gemstone เกรดล่าง ๆ และเมื่อได้ Epic หรือ Legendary Gemstone มันจะกลาย NFT โดยอัตโนมัติ
ทีจริงเราจะสามารถใช้ประโยชน์ NFT ได้เยอะมาก ซึ่งถ้าเอามาเล่าหมดก็อาจจะเยอะเกินไป ถ้าใครสนใจสามารถเข้าไปอ่านเพิ่มได้ที่ส่วน Tokenomics ของเว็บ Chainmonster ได้เลย
สุดท้ายนี้ขอบอกก่อนว่าตอนนี้เกมยังอยู่ในช่วง Alpha Access และจะเปิดจริง ๆ ในปีหน้าเพราะฉะนั้นในอนาคตข้อมูลส่วนนี้ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ แต่เท่าที่ลองดูก็พบว่าตอนนี้ถึงแม้ใน Alpha Access ยังทำอะไรไม่ค่อยได้มาก เกมยังมีความน่าสนใจทั้งในด้านของเสียงเพลง, กราฟฟิค, การเคลื่อนไหว และ Economy ซึ่งคาดว่าเมื่อเกมเปิดตัวเต็มแล้ว ด้านต่าง ๆ เหล่านี้คงจะพัฒนาและดีขึ้นอย่างมาก