เอลซัลวาดอร์ ติดตั้งตู้ ATM Bitcoin ของ Chivo ในเมืองต่าง ๆ ของสหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้การส่งเงินไปต่างประเทศไปยังเพื่อนและครอบครัวในประเทศอเมริกากลางเป็นเรื่องง่ายและถูกกว่า
ปัจจุบันเอลซัลวาดอร์มีตู้เอทีเอ็ม Chivo ซึ่งไม่มีการเก็บค่าคอมมิชชันติดตั้งอยู่ 50 เครื่องใน 10 แห่งของสหรัฐฯ ที่กฎหมายท้องถิ่นอนุญาต ตามที่ประธานาธิบดีนายิบ บูเคเล กล่าวในทวีตเมื่อวันที่ 13 กันยายน ได้แก่ ลอสแองเจลิสและซานฟรานซิสโก แคลิฟอร์เนีย ดัลลาส, เอลพาโซ, ฮูสตัน, ลาเรโดและแมคอัลเลน, เท็กซัส; ดอรัล, ฟลอริดา; แอตแลนตา จอร์เจีย และชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ และ ตามแผนที่ของ Chivo ยังแสดงสถานที่อีกสองแห่งในโคลัมบัส และโอไฮโอ
ปัจจุบันชาวซัลวาดอร์สามารถสร้างบัญชี Chivo โดยใช้เพียงหมายเลขประจำตัวประชาชน ซึ่งสามารถใช้ตู้เอทีเอ็มเพื่อถอนเงินและเติมเงินในบัญชีได้ และสามารถใช้แอปกระเป๋าเงินเพื่อชำระเงินหรือส่ง BTC หรือดอลลาร์ให้กับเพื่อนและครอบครัว โดยผู้ใช้ Chivo ไม่ต้องจ่ายค่า commission
Bukele ประมาณการว่ามีผู้ใช้มากกว่า 500,000 คนที่ลงทะเบียนใช้งานกระเป๋าเงิน ซึ่งมีการมอบโบนัส $30 ใน Bitcoin สำหรับการลงทะเบียน และก่อนหน้านี้รัฐบาลได้ตั้งข้อสังเกตว่ามีคนประมาณ 50,000 คนที่ใช้ bitcoin ในประเทศอยู่แล้วก่อนการเปิดตัว
Bukele ประมาณการว่าชาวซัลวาดอร์ใช้จ่ายเงิน 400 ล้านดอลลาร์ต่อปีสำหรับค่าธรรมเนียมการโอนเงิน โดยในปี 2018 มีรายงานว่าการโอนเงินจากสหรัฐฯ ส่วนใหญ่คิดเป็น 21% ของ GDP ของเอลซัลวาดอร์
Bukele ยังรับทราบปัญหาทางเทคนิคเกี่ยวกับการเปิดตัวกระเป๋าเงิน Chivo ซึ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 7 กันยายน ที่ออฟไลน์ไปชั่วขณะหนึ่งเนื่องจากข้อบกพร่อง โดยประธานาธิบดีอ้างว่ารัฐบาลได้แก้ไขปัญหานี้ไปแล้ว 95% รวมถึงปัญหาการโอนเงินผ่านธนาคารและบัญชีที่ถูกบล็อก