การยอมรับสกุลเงินดิจิทัลของไนจีเรียยังคงเพิ่มขึ้น แม้จะมีการปราบปรามของรัฐบาล อ้างอิงจากปริมาณการซื้อขายแบบ peer-to-peer (P2P) สำหรับ Bitcoin (BTC) รายสัปดาห์ ที่กลับมาเพิ่มสูงขึ้นเป็นอันดับสองในประวัติการณ์
ตามการรายงานของ Usefultulips.org ให้ข้อมูลว่า การซื้อขาย Bitcoin แบบ P2P ในไนจีเรียเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2564 (ถือเป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐฯ) และการยอมรับ Bitcoin ที่เพิ่มขึ้นนี้ส่งผลให้ Sub-Saharan Africa กลายเป็นภูมิภาคชั้นนำในการซื้อขายแบบ P2P โดยมีมูลค่าที่ 18.8 ล้านดอลลาร์ต่อสัปดาห์ ในขณะที่อเมริกาเหนือมีมูลค่า 18 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ตามข้อมูลจาก Google Trends พบว่าการค้นหา “Bitcoin” ในประเทศไนจีเรียยังคงขึ้นเป็นอันดับ 1 จากการสำรวจเทรนด์ทั่วโลก
จากภาวะวิกฤตทางการเมืองและเศรษฐกิจในปีนี้ ทำให้เกิดกระแสการยอมรับสกุลเงินดิจิทัลในท้องถิ่นมากขึ้น
การเรียกร้องทางการเมืองในช่วงกลางปีที่ผ่านมา มีรายงานว่ารัฐบาลไนจีเรียสั่งระงับบัญชีธนาคารของกลุ่มผู้บริจาคเพื่อสนับสนุนการประท้วง ส่งผลให้ผู้ประท้วงเริ่มหันมาใช้สกุลเงินดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อสนับสนุนการเรียกร้องทางการเมืองแทนการใช้สกุลเงินของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม ปริมาณการซื้อขายแบบ P2P ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนี้ ส่วนใหญ่เป็นการทำธุรกรรมใต้ดินหรือผิดกฎหมาย เนื่องจากรัฐบาลสั่งห้ามธนาคารทั่วประเทศหยุดให้บริการด้าน Crypto เพื่อปราบปรามการนำสินทรัพย์ดิจิทัลไปใช้
แม้ประเทศไนจีเรียจะเป็นปฏิปักษ์ต่อสกุลเงินดิจิทัลแบบกระจายศูนย์ แต่รัฐบาลได้กำลังทดลองและพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) โดยมีแผนที่จะเริ่มทดลองใช้ CBDC ในวันที่ 1 ต.ค. ปีนี้
อ้างอิง : LINK
