ปริมาณการใช้ไฟฟ้าประจำปีโดยประมาณของ Bitcoin ลดลงเกือบ 60% โดยลดลงจากจุดสูงสุดตลอดกาลที่สูงกว่า 143 เทราวัตต์-ชั่วโมง (TWh) ในเดือนพฤษภาคม เหลือต่ำสุดที่ 62 TWh ในต้นเดือนกรกฎาคม ตามข้อมูลจากดัชนีการใช้ไฟฟ้าของ Cambridge Bitcoin (CBECI) ). ซึ่งเป็นอัตราการใช้พลังงานต่ำสุดที่บันทึกไว้ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน 2020
ในขณะที่เขียน ปริมาณการใช้ไฟฟ้าต่อปีของ Bitcoin อยู่ที่ 67 TWh ในขณะที่ปริมาณการใช้ไฟฟ้าสูงสุดหรือค่าไฟฟ้าทั้งหมดสูงสุดโดยอิงตามสมมติฐานกรณีที่เลวร้ายที่สุด อยู่ที่ 162 TWh ลดลงจาก 520 TWh ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม
แม้ว่าหน่วยงานกำกับดูแลระดับโลกยังคงตำหนิ Bitcoin ( BTC ) ต่อการใช้พลังงานที่มากเกินไป และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง แต่ในความเป็นจริงแล้วการใช้พลังงานของ Bitcoin ลดลงอย่างมากเมื่อเร็ว ๆ นี้
ตลาดกระทิงของ Bitcoin ก่อนหน้านี้ ที่ผลักดันให้ราคาสูงกว่า 64,000 ดอลลาร์ในเดือนเมษายน ได้ผลักดันให้เกิดการเติบโตอย่างมากของปริมาณไฟฟ้าที่นักขุด Bitcoin ใช้ไป และทำให้เกิดการถกเถียงครั้งใหญ่เกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นจากสกุลเงินดิจิทัล แต่ในเวลาต่อมา Bitcoin ประสบปัญหาการเทขายครั้งใหญ่หลังจากที่ Elon Musk ซีอีโอของ Tesla ระงับการชำระเงินด้วย Bitcoin เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม
ซึ่งปริมาณการใช้ไฟฟ้าโดยประมาณของ Bitcoin ก็ลดลงอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่มีการประกาศ และตามมาด้วยการปราบปรามอุตสาหกรรมการขุด cryptocurrency ของจีน ทำให้มีการปิดเหมือง cryptoในมองโกเลียในในเดือนเมษายน และทางการจีนได้บังคับใช้คำสั่งห้ามการขุด crypto ซึ่งรวมถึงจังหวัดที่ใช้ไฟฟ้าพลังน้ำด้วย เช่น เสฉวนและยูนนาน เช่นเดียวกับซินเจียงและชิงไห่
อ้างอิง : LINK
