บริษัทการลงทุน IBC Group ซึ่งมีการดำเนินการขุดคริปโตเคอเรนซี (cryptocurrency) ที่สำคัญในประเทศจีน ประกาศความตั้งใจที่จะปิดการขุด Bitcoin และ Ethereum ทั้งหมดทั่วประเทศ โดยมีแผนที่จะย้ายไปแคนาดา สหรัฐอเมริกา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คาซัคสถาน ไอซ์แลนด์ และประเทศในอเมริกาใต้จำนวนมาก
ผลจากการปราบปรามการขุด cryptocurrency โดยรัฐบาลจีน ทำให้การขุด BTC ส่วนใหญ่ต้องปิดตัวลง ซึ่งล่าสุด IBC Group หนึ่งในผู้ดำเนินการขุดรายใหญ่ที่สุด มีแผนที่จะปิดกิจการเหมืองในท้องถิ่นและย้ายออกจากประเทศ
แม้ว่าปัจจุบันบริษัทจะมีพนักงานมากกว่า 1,500 คนใน 40 เมืองใหญ่ของจีน อย่างไรก็ตามด้วยข้อจำกัดของของรัฐบาลทำให้บริษัทต้องมองไปยังประเทศอื่น ๆ อีกมากมายที่สามารถเข้าถึงการขุดสินทรัพย์ดิจิทัลได้ เช่น แคนาดา สหรัฐอเมริกา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไอซ์แลนด์ คาซัคสถาน และอื่นๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ ในเดือนมีนาคมปีนี้ บริษัทได้ย้ายสำนักงานใหญ่ไปที่โตรอนโต แคนาดา และระบุถึงความสัมพันธ์ในอนาคตกับประเทศในอเมริกาเหนือ โดยทางด้าน Khurram Shroff – ประธาน IBC – ให้ความเห็นว่า
“การย้ายเหมืองขุด crypto ออกจากประเทศจีน จะเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่สำหรับแคนาดา และเมื่อเร็ว ๆ นี้ตลาดหลักทรัพย์โตรอนโตก็ได้จดทะเบียน Bitcoin ETF แห่งแรกของโลก ดังนั้นประเทศนี้จึงล้ำหน้าในแง่ของการยอมรับคริปโต”
ทางด้าน Scott Melker หรือที่รู้จักในชื่อ The Wolf of All Streets ให้ความเห็นว่า กระบวนการย้ายเหมืองออกจากจีนไม่ได้ส่งผลเสียต่อ Bitcoin เสมอไป ในทางตรงกันข้าม เขาอ้างว่าสถานประกอบการจำนวนมากพร้อมที่จะเริ่มขุด BTC ในที่ต่าง ๆ ของโลก โดยใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียนและเทคโนโลยีร่วมสมัย
ขณะที่ Michael Saylor หนึ่งในผู้สนับสนุน Bitcoin ที่โดดเด่นที่สุดก็เคยกล่าวว่า จีนกำลังทำ “ความเสียหายมูลค่าล้านล้านดอลลาร์” โดยการขับไล่ผู้ขุด BTC ออกจากประเทศ
อ้างอิง : LINK