“กรณ์” จากพรรคกล้า แนะ! ก.ล.ต.ไม่ควรเอาแต่ห้าม ต้องมองเป็นโอกาส และหาแนวทางส่งเสริม พัฒนา Crypto , บล็อคเชน และ NFT

คุณกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้า “พรรคกล้า” ได้กล่าวถึงเรื่องที่ทาง กลต. มีการห้ามศูนย์ซื้อขาย (Exchange) นำเหรียญ Utility Tokens รวมถึงเหรียญ Meme , FAN, NFT และ Exchange Token มาลิสต์บนกระดานซื้อขาย โดยระบุว่าภาครัฐไม่ควรเอาแต่ห้าม ต้องมองเป็นโอกาส และหาแนวทางส่งเสริมการพัฒนา

ใน Facebook กรณ์ จาติกวณิช – Korn Chatikavanij ของคุณกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ได้กล่าวว่า “เมื่ออาทิตย์ที่แล้วผมได้เห็นประกาศของ กลต. เรื่องการห้ามศูนย์ซื้อขาย (Exchange) นำเหรียญ Utility Tokens พร้อมใช้ 4 ประเภท (Meme, FAN, NFT, Native coins) ขึ้นกระดานซื้อขาย พออ่านดูแล้วก็รู้สึกประหลาดใจว่าทำไม ก.ล.ต. ถึงมีแนวคิดปิดกั้นในเรื่องเหล่านี้ เลยได้มีการพูดคุยกับทีม Tech ในพรรคกล้า และสอบถามความเห็นของพี่ ๆ น้อง ๆ ในวงการ Fintech พอสรุปได้ว่าประกาศของ ก.ล.ต. มีทั้งความไม่ชัดเจนและส่งผลต่อการปิดกั้นโอกาสของคนไทยในการใช้เทคโนโลยีบล็อคเชนในการสร้างนวัตกรรม”

โดยยังกล่าวว่ากฎที่ออกมานั้นไม่มีการทำประชาพิจารณ์ และจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสามารถในการแข่งขันของไทยในระดับนานาชาติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และทำให้สูญเสียโอกาสของคนไทยในการพัฒนาทักษะและเครื่องมือที่สำคัญ อีกทั้งยังเป็นการผลักไสให้คนที่มีความสามารถและนวัตกรรมต้องออกนอกประเทศ

หัวหน้าพรรคกล้า ยังย้ำถึงความไม่ชัดเจนของกฎบางข้อเช่น

1. การนิยาม Meme และ FAN tokens ยังขาดรายละเอียดตัวชี้วัดว่า เหรียญแบบไหนถือว่ามีสาระที่สมควรอนุญาตให้ซื้อขายในกระดานซื้อขายไทย

2. การกีดกัน NFT ซึ่งถือเป็น Softpower อีกหนึ่งเครื่องมือเศรษฐกิจยุคดิจิตอล โดยถือว่าเป็นของเฉพาะกลุ่ม ถือเป็นการกีดกันการค้าของอุตสาหกรรมศิลปะ บันเทิง และเกมส์ ไม่ให้เกิดการพัฒนาและรับรู้อย่างแพร่หลาย

3. ห้ามศูนย์ซื้อขาย ทำ Native coins ในระบบ Blockchain ด้วยความกลัวด้านข้อมูลภายใน (inside information) ถือเป็นการตระหนกเกินกว่าเหตุ เพราะเมื่อเทียบกับหลักปฏิบัติของตลาดหุ้นสากล ผมยังคงเห็นหุ้นของ NASDAQ, London Stock Exchange และ Singapore Stock Exchange (SGX) ซึ่งถือเป็นกระดานซื้อขายทำ self listing หุ้นตนเอง เมื่อเทียบกับผู้เล่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน คือ Binance (BNB) ผมจึงเสนอว่าสาระสำคัญไม่ได้อยู่ที่การห้ามให้มีหรือไม่มีการทำ self listing แต่อยู่ที่การควบคุมไม่ให้กระดานซื้อขายนำข้อมูลภายในมาใช้เพื่อผลประโยชน์ของตน

4. ข้อบังคับเหล่านี้ไม่มีผลย้อนหลังสำหรับเหรียญในจำนวนที่ถูกซื้อขายบนกระดานแล้วในปัจจุบัน แต่ห้ามการนำจำนวนเหรียญที่ยังไม่เข้าสู่ระบบมาทำการซื้อขายเพิ่ม ซึ่งเป็นเรื่องยากในการกำกับและติดตาม Exchange อื่นๆจะไม่สามารถทำ self listing เหรียญของตัวเองที่ใช้ในระบบ blockchain ได้อีกต่อไป ซึ่งแน่นอนว่าทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมในการแข่งขัน

โดยสรุปแล้ว คุณกรณ์ ไม่เห็นด้วยกับ ก.ล.ต. ที่ออกกฏในลักษณะปิดกั้นแต่ควรส่งเสริมและมีบทบาทในการตรวจสอบ (auditing) มีกติกาชัดเจน เช่น การกำหนดความละเอียดและความสมบูรณ์ของ Whitepaper โดยยังมีพื้นที่ให้กลไกตลาดทำงานได้ โดยไม่เป็นการปฏิเสธความรับผิดชอบ

Share on facebook
Share on twitter
Share on linkedin

Radius

ผู้เชี่ยวชาญการเขียนข่าว บทความ ที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin , คริปโตเคอเรนซี่ และ Blockchain ทั้งในไทยและต่างประเทศ อัพเดทราคา มุมมองการลงทุน ใหม่ล่าสุดทุกวัน
ข่าวต่อไป