หลังจากการเทขายครั้งใหญ่ในตลาดคริปโต ท่ามกลางรายงานเกี่ยวกับข้อเสนอการขึ้นภาษีของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ฝ่ายบริหารของไบเดนได้ออกมาระบุว่าตะเกิดขึ้นเฉพาะกลุ่มที่ “รวยมากเท่านั้น”
เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงของไบเดน อ้างว่ามีเพียง 0.3% ของผู้เสียภาษีในสหรัฐฯเท่านั้นที่จะได้รับผลกระทบจากการเรียกเก็บภาษีจากการลงทุนที่สูงขึ้นภายใต้แผนภาษีเงินกองทุนฉบับใหม่
“มีหลักฐานว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผลตอบแทนจำนวนมากที่อยู่ในอันดับต้น ๆ คือสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าตลาดค่าเช่าและอื่น ๆ การเก็บภาษีผู้คนที่ทำผลงานได้ดีมากในระบบเศรษฐกิจก็ถือเป็นวิธีหนึ่ง” เจ้าหน้าที่บริหารของไบเดนกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ Financial Times
ภายใต้แผนของไบเดนอัตราภาษีกำไรสำหรับบุคคลที่ร่ำรวยจะเพิ่มขึ้นเป็น 39.6% จากอัตราฐานปัจจุบันที่ 20% สำหรับผู้ที่มีรายได้ตั้งแต่ 1 ล้านดอลลาร์ขึ้นไป โดยอัตราสูงสุดใหม่จะทำให้อัตราภาษีกำไรและเงินปันผลของสหรัฐฯเป็น 43.4%
ทั้งตลาดคริปโตและหุ้นสหรัฐ ต่างประสบกับการเทขายครั้งใหญ่หลังมีการประกาศข่าวนี้ออกมา ซึ่งนักลงทุนมีการเทขายหุ้นออกก่อนที่จะมีการนำอัตราภาษีที่สูงขึ้นมาใช้ และทำให้ Bitcoin ( BTC ) ต้องเผชิญกับแรงขายอย่างหนักส่งผลให้ราคาลดลงต่ำกว่าระดับแนวรับ 50,000 ดอลลาร์ในวันศุกร์จนแตะระดับต่ำสุด 47,500 ดอลลาร์ ก่อนที่จะเริ่มกลับมาได้
อ้างอิง : LINK