Acer ยักษ์ใหญ่ด้านคอมพิวเตอร์ ถูกโจมตีจาก REvil ซึ่งเป็น ransomware และเรียกร้องค่าไถ่มูลค่าสูงถึง 50,000,000 ดอลลาร์ หรือกว่า 1,500 ล้านบาท
Acer ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์สัญชาติไต้หวันที่มีชื่อเสียงในด้านแล็ปท็อป เดสก์ท็อป และจอภาพ โดยมีพนักงานประมาณ 7,000 คนและมีรายได้ 7.8 พันล้านดอลลาร์ในปี 2019
โดยทางด้าน ransomware ได้ประกาศบนเว็บไซต์ว่าพวกเขาได้เข้าถึงข้อมูลของ Acer และได้มีการแชร์ภาพของไฟล์ที่ขโมยมาได้เพื่อเป็นหลักฐาน โดยเป็นข้อมูลทางการเงินในธนาคาร
ด้าน Acer ไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนว่าพวกเขาถูกโจมตีจาก REvil ransomware จริงหรือไม่ โดยกล่าวว่าพวกเขา “ได้รายงานสถานการณ์ผิดปกติล่าสุด” ไปยัง LEA และ DPA ที่เกี่ยวข้อง
“Acer ได้ตรวจสอบระบบไอทีของตนเป็นประจำ และการโจมตีทางไซเบอร์ส่วนใหญ่ได้รับการป้องกันอย่างดี ซึ่งบริษัทเราถูกโจมตีอยู่ตลอดเวลาและเราได้รายงานสถานการณ์ผิดปกติล่าสุดที่พบนี้ต่อหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและหน่วยงานคุ้มครองข้อมูลที่เกี่ยวข้องในหลายประเทศแล้ว”
“เราได้ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างต่อเนื่อง เพื่อปกป้องความต่อเนื่องทางธุรกิจและความสมบูรณ์ของข้อมูล เราขอให้ทุกบริษัทและองค์กรปฏิบัติตามระเบียบวินัยและแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดด้านความปลอดภัยในโลกไซเบอร์
Acer กล่าวว่า “จะมีการสอบสวนอย่างต่อเนื่อง และเพื่อความปลอดภัยเราไม่สามารถแสดงความคิดเห็นในรายละเอียดได้”
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นาน BleepingComputer ก็พบตัวอย่างและสามารถยืนยันได้ว่าจากบันทึกเรียกค่าไถ่ ซึ่งเป็นการสนทนาของ Acer กับผู้โจมตี โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม โดยมีการเรียกค่าไถ่ถึง 50 ล้านดอลลาร์ รวมถึงผู้โจมตียังเสนอส่วนลด 20% หากชำระเงินภายในวันพุธที่ผ่านมา นอกจากนี้แก๊ง ransomware จะส่งตัวถอดรหัส , รายงานเกี่ยวกับช่องโหว่ , และการลบไฟล์ที่ถูกขโมยกลับมาให้ด้วย
การเรียกค่าไถ่ถึง 50 ล้านดอลล่าร์ของ REvil ถือเป็นค่าไถ่ที่มากที่สุดในปัจจุบัน โดยก่อนหน้านี้เคยมีกรณีการเรียกค่าไถ่มูลค่า 30 ล้านดอลลาร์จากการโจมตีทางไซเบอร์ของ Dairy Farm โดย REvil
อ้างอิง : LINK
