ในการสัมภาษณ์พิเศษกับ Decrypt กับ Dan Schulman ซีอีโอของ PayPal ได้อธิบายว่า PayPal กำลังแข่งขันเพื่อนำเทคโนโลยีทางการเงินยุคใหม่มาใช้อย่างไร ซึ่งรวมถึงการเปิดตัวธุรกิจที่เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งประกาศครั้งแรกไปเมื่อเดือนที่แล้ว
“มีโอกาสมากมายที่จะเป็นประโยชน์ในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานรุ่นต่อไป” Schulman กล่าว “นั่นคือสิ่งที่หน่วยธุรกิจ (Business unit) นี้เป็น” โดยเขาเสริมว่าส่วนหนึ่งของภารกิจคือการ “พัฒนายูทิลิตี้ของสกุลเงินดิจิทัล”
PayPal ยังทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Wences Casares ซึ่งเป็นอดีตสมาชิกคณะกรรมการและผู้ก่อตั้งบริษัท Xapo เพื่อขอคำแนะนำ “เขาสนับสนุนให้เราดูโครงสร้างต่าง ๆ ในทุกรูปแบบที่อาจเกิดขึ้น”
Schulman เองก็มีความเชี่ยวชาญในภาษาของโลกของสกุลเงินดิจิทัล โดยเขาอธิบายว่าหน่วยธุรกิจสำหรับ Crypto ของ PayPal ได้ทดลองกับ smart contracts อย่างไร และทดสอบกับ Ethereum และบล็อคเชนอื่น ๆ ในฐานะสิ่งที่มีศักยภาพเที่จะช่วยบริษัท ปรับปรุงการชำระเงินและธุรกรรมอื่น ๆ
Schulman กล่าวว่า ความพยายามสำหรับ Crypto ของ PayPal ในปัจจุบันมีเพียงการเสนอการซื้อและขาย Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ แต่ในอนาคตจะมีการขยายไปให้ไกลกว่าการทำได้แค่ “ซื้อ-ขาย-ถือ” ในไม่ช้า
Schulman ยังแสดงความไม่พอใจที่การแปลงระบบการเงินให้เป็นดิจิทัลต้องมาล้มเหลวในเรื่องการลดต้นทุนให้กับผู้บริโภค โดยสังเกตว่า “take rate” เฉลี่ยสำหรับธุรกรรมยังคงอยู่ที่ 2.8% และเขาเสริมว่า take rate นี้ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมที่จ่ายให้กับธนาคาร , ผู้ประมวลผลบัตร และหน่วยงานอื่น ๆ โดยทั่วไปแล้วจะต่ำกว่าสำหรับผู้บริโภคที่ร่ำรวย แต่อาจสูงถึง 5-10% สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป
จากข้อมูลของ Schulman ไม่ใช่แค่บริษัทอย่าง PayPal เท่านั้น แต่รัฐบาลและธนาคารกลางก็กำลังพิจารณาว่า blockchain และเทคโนโลยีใหม่อื่น ๆ จะทำให้ต้นทุนเหล่านี้ลดลงได้อย่างไร
“ผมคิดว่าเทคโนโลยีพื้นฐานบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซี อาจเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานที่ธนาคารกลางกำลังมองหา – เนื่องจากมันมีประโยชน์ในการใช้โครงสร้างพื้นฐานของระบบเก่าและปรับปรุงให้ทันสมัย เพื่อให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายได้ครอบคลุมมากขึ้น ” เขากล่าว
สิ่งที่น่าสนใจคือ Schulman ยังไม่ได้คิดว่า PayPal จะเข้าร่วมกับ Square , Tesla และบริษัทมหาชนอื่น ๆ ที่เพิ่งเพิ่ม Bitcoin ในคลังขององค์กรของพวกเขา
“มันไม่ได้อยู่บนเรดาร์ของเรา” เขากล่าว “เราไม่ชอบการขึ้น ๆ ลง ๆ หากคุณต้องลงทุนในสินทรัพย์บางประเภท” Schulman กล่าว
Schulman ยังอธิบายว่า PayPal ได้วาดภาพของ “super app” ที่จะนำเสนอคุณลักษณะที่ครั้งหนึ่งกระจัดกระจายอยู่ตามแอปต่างๆ รวมถึงเครื่องมือสำหรับการชำระเงิน , การซื้อของ , บริการทางการเงิน และ “แม้แต่รูปแบบใหม่ของการระบุตัวตนทางดิจิทัล”
การมาถึงของ “super app” ดังกล่าวยังเป็นการชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคในสหรัฐฯพร้อมแล้วที่จะรับเทรนด์ที่กำลังเป็นที่นิยมในเอเชีย ตัวอย่างเช่น ในประเทศจีน WeChat แอปที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่กระเป๋าเงิน แต่ยังรวมถึงเครือข่ายสังคมและแพลตฟอร์มการค้า อย่างไรก็ตาม ในอเมริกาเหนือผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงชอบรูดบัตรพลาสติกหรือใช้เงินสดในการจับจ่าย ดังนั้นจึงอาจเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากในการชักชวนให้ผู้คนยอมรับประสบการณ์ที่เหมือน WeChat
“มันเป็นระบบนิเวศที่พัฒนาไปเร็วมากในตอนนี้” Schulman กล่าว ซึ่งฐานลูกค้าของ PayPal ในปัจจุบันมีกระเป๋าเงินดิจิทัล 377 ล้านใบ และบริษัทกำลังหาวิธีรวบรวมเครื่องมือการชำระเงินที่หลากหลาย ตั้งแต่การเก็บบัตรเครดิตไปจนถึง hotel rewards – ลงในแอป ๆ เดียว
“ถ้าเราก้าวไปสู่เทคโนโลยีใหม่ ๆ เหล่านี้ ถ้าเราย้ายไปใช้สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางมากขึ้น…มันจะมีสิ่งดี ๆ อะไรบ้างที่จะถูกปลดปล่อยออกมา”
อ้างอิง : LINK