แม้ว่า Bitcoin จะยังคงถูกห้ามอย่างเป็นทางการในประเทศจีน แต่ประเทศนี้ก็แสดงถึงปริมาณโวลลุ่มการซื้อขาย BTC ที่สำคัญที่สุด นอกจากนี้ ทวีปเอเชียที่มีประชากรมากที่สุดในโลกยังครองส่วนแบ่งการตลาดที่ใหญ่ที่สุดในกิจกรรมที่เกี่ยวกับวาฬและการค้าขนาดใหญ่
จีนครองสนาม Crypto
รัฐบาลของจีนระบุซ้ำ ๆว่า BTC ถูกห้ามอย่างเป็นทางการภายในพรมแดนของประเทศ อย่างไรก็ตามประเทศนี้ก็ยังคงเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัล
ตามที่รายงานก่อนหน้านี้ จีนเป็นผู้ครองแรงขุด BTC มากกว่า 60% ซึ่งหมายความว่าเหมืองขุดส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศจีน
และข้อมูลจากบริษัท Messari ก็ได้รายงานว่านอกเหนือจากกลุ่มนักขุดที่มีจำนวนมากที่สุดแล้ว ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกยังมีชุมชนการพัฒนา crypto จำนวนมาก และเป็นที่ตั้งของ “เว็บเทรดที่ใหญ่ที่สุดสามแห่งในโลก”
“เอเชียตะวันออก (ส่วนใหญ่เป็นจีน) เป็นผู้ครองโวลลุ่มขนาดใหญ่ถึง 90% ของปริมาณการซื้อขายที่สูงกว่า 10,000 ดอลลาร์ โดยเอเชียตะวันออกมีนักเทรด short-term มากกว่าในสินทรัพย์ที่หลากหลายมากขึ้น เมื่อเทียบกับอเมริกาเหนือที่ให้ความสำคัญกับการถือครอง bitcoin ในระยะยาวมากกว่า”
เป็นที่น่าสังเกตว่าการปราบปรามด้านกฎระเบียบในอุตสาหกรรมและบุคคลที่มีชื่อเสียงยังคงมีอยู่ โดยมีรายงานในปี 2020 ว่า China Merchant Bank ได้ระงับบัญชีธนาคารที่เป็นของผู้ใช้ที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมการซื้อขาย cryptocurrency
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ก่อตั้ง OKEx ในการสืบสวน ซึ่งทำให้เกิดปัญหาการถอนเงินไม่ได้ที่ผ่านมา
40% ของโครงการคริปโตขนาดใหญ่ มาจากเอเชีย
เอกสารของ Messari ยังให้แนวทางที่กว้างขึ้นในการตรวจสอบพฤติกรรมของนักพัฒนา นักลงทุน และผู้ใช้ทั่วทั้งทวีปเอเชีย นอกเหนือจากการครอบงำตลาดของจีนดังกล่าวแล้วประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเช่น อินเดีย ญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ก็ได้ใช้ประโยชน์จากสกุลเงินดิจิทัลเป็นจำนวนมาก
“เนื่องจากเอเชียคิดเป็น 60% ของประชากรโลก บริษัทโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลกจึงสนใจที่จะเจาะตลาดที่กำลังเติบโต โดยเมื่อปลายปีที่แล้วหกในสิบอันดับแรกของยูนิคอร์นคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลกตั้งอยู่ในเอเชีย”
เอกสารฉบับนี้ยังกล่าวอีกว่า “สำนักงานใหญ่ของโครงการใน 20 อันดับแรก พบว่า 42% อยู่ในเอเชีย” ตามข้อมูล ณ กลางเดือนมกราคม 2021
อ้างอิง : LINK