Bitcoin ( BTC ) กำลังเปลี่ยนมืออย่างรวดเร็ว หลังจากลดลงเหลือ 30,000 ดอลลาร์ และมีเพียงเศรษฐีเท่านั้นที่จะชนะ ตามที่ข้อมูลที่แสดงจาก Glassnode เมื่อวันที่ 11 มกราคมที่เผยให้เห็นว่านักลงทุนที่ “buying the dip” ครั้งนี้ คือผู้ที่มียอดคงเหลือเกิน 1,000 BTC (36 ล้านดอลลาร์)
Elias Simos ผู้เชี่ยวชาญด้านโปรโตคอลของ Bison Trails ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน blockchain พบว่า ข้อมูลตัวเลขชี้ให้เห็นว่าผู้มั่งคั่งกำลังได้รับผลกำไรจาก Bitcoin ที่นักลงทุนรายย่อยเทขายตลอดเดือนธันวาคมและมกราคม
“ที่อยู่ที่มีมากกว่า 1k BTC กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงที่ราคากำลังตกต่ำครั้งล่าสุดนี้” Simos สรุป
“ในขณะที่คุณขาย ปลาวาฬกำลังฮุบ Bitcoin ของคุณ…”
ในทางกลับกัน จำนวนกระเป๋าสตางค์ที่มียอดคงเหลือน้อยกำลังลดลง หลังจากราคา BTC / USD เพิ่มขึ้นจาก 19,000 ดอลลาร์ในวันที่ 1 ธันวาคม สู่ระดับสูงสุดล่าสุดที่ 42,000 ดอลลาร์มีเพียงกลุ่มที่มีมากกว่า 1,000 BTC ที่เติบโตขึ้น
สิ่งนี้บ่งบอกว่าเม่ามืออ่อนหรือ weak hands กำลังขายให้กับ strong hands – “อย่าเป็นส่วนหนึ่งของการโอน BTC ไปยังมหาเศรษฐี บริษัท และกองทุนป้องกันความเสี่ยง …. อย่างน้อยก็ยังไม่ใช่ตอนนี้” ผู้ประกอบการ Alistair Milne เตือนผู้ติดตามบน Twitter
ด้าน Guggenheim Partners ซึ่งเคยประกาศจะจัดสรรกองทุนจำนวนมากให้กับ BTC ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ได้ถูกกล่าวหาว่ามีการวางแผนที่จะขายการถือครองบางส่วนออกไป โดยจุดเริ่มต้นมาจากหัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุน Scott Minerd ซึ่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ได้ออกกล่าวว่าการลดลงในช่วงสุดสัปดาห์ของ Bitcoin ทำให้เกิดแรงผลักดันในการทบทวน position ใหม่
“การเพิ่มขึ้นแบบพาราโบลาของ Bitcoin นั้นไม่ยั่งยืนในระยะเวลาอันใกล้นี้” เขาเขียน “และเสี่ยงต่อความปราชัย”
ซึ่งคำพูดของเค้าดูเหมือนจะสร้างความสับสนให้กับชุมชน โดยทำให้เกิดการตั้งคำถามถึงเหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจที่เกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากการเข้าซื้อครั้งแรกของ Guggenheim
“CIO ของบริษัทขนาดใหญ่กลายเป็น day trade ของ btc ? ทั้ง ๆ ที่ควรถือขั้นต่ำ 5-10 ปี” Dan Tapeiro นักลงทุนระดับมหภาคแย้ง
การเพิ่มขึ้นของสถาบันเกิดขึ้นท่ามกลางอุปสงค์และอุปทานพื้นฐานที่บีบตัวมากขึ้นสำหรับ Bitcoin โดยมีผู้ซื้อจำนวนมาก ซึ่งแซงหน้าสิ่งที่นักขุดสามารถผลิตได้ในแต่ละเดือน
อ้างอิง : LINK
