Martti Malmi หนึ่งในผู้พัฒนา Bitcoin ( BTC ) รายแรก ๆ และรู้จักกันในชื่อ Sirius ได้อธิบายว่าเกิดอะไรขึ้นกับการถือครอง crypto ครั้งใหญ่ตั้งแต่ปี 2009
ตามที่โพสใน Twitter เมื่อวันศุกร์จากอดีตนักพัฒนา Bitcoin ( BTC ) Malmi ระบุว่าเค้าขุดได้ประมาณ 55,000 BTC ระหว่างปี 2009 ถึง 2010 เมื่อราคาเกือบเป็นศูนย์ โดย Malmi กล่าวว่าเขาจบลงด้วยการเทขาย 5,050 BTC ในราคา $5 ในเดือนตุลาคม 2009 และอีก 30,000 BTC ผ่านหนึ่งในเว็บเทรด Bitcoin แห่งแรก ๆ ที่เขาเป็นคนดำเนินการ“ด้วยเรทที่ไม่ดี”
I'd be a *billionaire* now if I hadn't sold the 55,000 bitcoins I mined on my laptop in 2009-2010 way too early (mostly before 2012). That is regretful, but then again, with the early bitcoiners we set in motion something greater than personal gain.
— Martti Malmi (@marttimalmi) December 18, 2020
“ผมวางแผนที่จะ HODL ส่วนที่เหลือของ BTC แต่ก็ต้องขายให้ได้มากที่สุดในเรทที่ไม่ดี (ประมาณ $5) ในปี 2012 เมื่อการหางานใหม่ใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้” Malmi กล่าว “ตั้งแต่นั้นมาผมก็เก็บเงินออมเป็น BTC ไว้จำนวนมาก แต่ก็ไม่มากนัก แต่ก็ยังคงได้รับผลตอบแทนที่ดีในช่วงหลายปีที่ผ่านมา”
อย่างไรก็ตาม การลงทุนที่สำคัญที่สุดของผู้พัฒนา Bitcoin จากรายได้จาก Crypto ในช่วงต้นของเขาคือเมื่อเขาขาย 10,000 BTC ในปี 2011 เพื่อซื้ออพาร์ตเมนต์ในเฮลซิงกิ “มันน่าจะเป็นสตูดิโอที่แพงที่สุดในโลกตอนนี้” เขากล่าวใน Twitter
In 2011 when the exchange rate peaked at $15-$30, I sold over 10,000 BTC to buy a fairly comfortable studio apartment near Helsinki. Big deal for a 22-year-old who never had much money. Probably the most expensive studio in the world now, but at least I got more than 2 pizzas. pic.twitter.com/AQupV94ev0
— Martti Malmi (@marttimalmi) December 18, 2020
ด้วยการเพิ่มขึ้นล่าสุดของ Bitcoin ถึง 24,000 ดอลลาร์การ การถือครอง 55,000 BTC ของ Malmi จะมีมูลค่ามากกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้อดีตผู้พัฒนากล่าวว่าเขา “ไม่เคยเสียใจเลย”
“มันไม่เหมือนกับที่ผมเคยมีเงิน 1 พันดอลลาร์และเสียไปในชั่วข้ามคืน นอกจากความสำเร็จของ Bitcoin แล้ว ผมก็ค่อนข้างมีความสุขที่ได้อพาร์ทเมนต์ของตัวเองตอนอายุ 22″
“บางทีอาจเป็นเพราะวัฒนธรรม ความคิด และการขาดประสบการณ์ในชีวิต ทำให้ผมไม่เคยคิดมากเกี่ยวกับการหาเงิน มันบังเอิญและเป็นผลพลอยได้จากการที่ Satoshi ขอให้ผมทำให้โหนดของผมทำงานต่อไปเพื่อให้คนอื่นเชื่อมต่อได้”
อ้างอิง : LINK