Bitcoin ช่วยให้ผู้อพยพที่ไม่มีเอกสาร ในการส่งเงินกลับบ้านได้อย่างสะดวก

สำหรับผู้อพยพที่ต้องการค้นหา “ความฝัน” ในดินแดนใหม่ การหาวิธีส่งเงินกลับบ้านอาจเป็นฝันร้าย ซึ่งตลาดแบบเพียร์ทูเพียร์ของ Bitcoin (BTC) กำลังให้ความช่วยเหลือพวกเค้า ตามรายงานใหม่จาก Arcane Research

ผู้อพยพที่ไม่มีเอกสาร (Undocumented Immigrant) ต้องเผชิญกับอุปสรรคทางกฎหมายและการเงินในการส่งเงินกลับบ้านมาตลอด  แต่ผู้ช่วยชีวิตที่น่าประหลาดใจกำลังเกิดขึ้นแล้วนั่นคือ: Bitcoin

Arcane Research บริษัทวิเคราะห์สกุลเงินดิจิทัลได้เผยแพร่ผลการศึกษาล่าสุดเกี่ยวกับสถานะปัจจุบันของตลาดแบบเพียร์ทูเพียร์ของ Bitcoin โดยพบว่า Cryptocurrencies ได้มีการให้ความช่วยเหลือผู้อพยพ เนื่องจากสินทรัพย์ดิจิตอลเหล่านี้มีการใช้งานในต่างประเทศทั่วโลก , ปลอดภาษี , ราคาค่าธรรมเนียมที่ถูก , และการโอนเงินที่รวดเร็ว

ยิ่งไปกว่านั้น รายงานยังพบว่าผู้อพยพที่ไม่มีเอกสารได้หันไปหาตลาดแบบเพียร์ทูเพียร์ เพื่อซื้อ Bitcoin และส่งเงินกลับบ้านมากขึ้น โดยการใช้ gift cards เนื่องจากพวกเขาต้องการหลีกเลี่ยงข้อจำกัดของธนาคารและข้อกำหนดของ KYC

“การซื้อขาย gift cards ช่วยให้ผู้อพยพที่ไม่มีเอกสารสามารถโอนเงินให้เพื่อนและครอบครัวที่บ้านได้” โดยวิธีการชำระเงินนี้เป็นที่นิยมในอเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลเบื้องหลังการเติบโตของ Paxful ซึ่งเป็นบริการแลกเปลี่ยน Bitcoin แบบ P2P ที่กำลังมาแรงในภูมิภาคนี้

Paxful นั้นมีปริมาณการซื้อขายมากถึงสี่เท่า กว่าเว็บเทรด P2P ชั้นนำอย่าง LocalBitcoins ในอเมริกาเหนือ

Matt Ahlborg อธิบายกับ Arcane Research ว่าผู้อพยพใช้ gift cards เพื่อส่งการโอนเงิน Bitcoin ไปยังญาติของพวกเขาในต่างประเทศอย่างไร:

“ผู้ย้ายถิ่นฐานในประเทศตะวันตก โอนเงินไปต่างประเทศผ่าน gift cards บน Paxful โดยเค้าจะซื้อ gift cards ที่ร้านค้าในพื้นที่” Ahlborg กล่าว “จากนั้นพวกเค้าก็ถ่ายภาพ gift cards นี้และส่งไปให้เพื่อนและครอบครัวในต่างประเทศ หลังจากนั้นพวกเขาก็จะขาย gift cards เหล่านั้นใน Paxful เป็น BTC และก็แปลง BTC ไปเป็นสกุลเงินท้องถิ่น โดยขาย BTC ให้กับผู้ซื้อในตลาดท้องถิ่นผ่านแพลตฟอร์ม P2P แห่งใดแห่งหนึ่ง”

กระบวนการนี้อาจดูยุ่งยาก แต่ความจริงก็คือมันทั้งเร็วและถูกกว่าตัวเลือกแบบดั้งเดิม โดย Bitcoin กลายเป็นทางเลือกที่ดียิ่งขึ้นสำหรับการโอนเงินเมื่อสถานการณ์ทางการเมืองหรือเศรษฐกิจเลวร้ายมากขึ้น ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ เวเนซุเอลา ซึ่งบริการโอนเงินเกือบทั้งหมดถูกปิดกั้นไม่ให้ดำเนินการในประเทศ เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรของรัฐบาลสหรัฐฯ

“ในเวเนซุเอลา Paypal , เวสเทิร์นยูเนี่ยน , MoneyGram ไม่สามารถใช้ได้” Ariana Entralgo ชาวเวเนซุเอลาที่อาศัยอยู่ในอาร์เจนตินากล่าว “ฉันเคยส่งเงินแบบไม่เป็นทางการผ่านธุรกิจที่โปรโมตผ่านทาง Instagram โดยการฝากเงินให้เค้า จากนั้นเค้าก็จะถ่ายโอนไปยังบัญชีธนาคารในเวเนซุเอลาให้” แต่ตอนนี้เธอได้ใช้ Bitcoin แทนแล้ว

“สิ่งที่ฉันทำตอนนี้คือ ฉันซื้อ Bitcoin ที่นี่ ผ่าน LocalBitcoins และเมื่อได้ BTC มาในบัญชีของฉันแล้ว ฉันก็แค่เปลี่ยนไปที่หน้าของเวเนซุเอลา และขาย BTC จากนั้นก็ให้ผู้ซื้อทำการฝากเงินเข้าบัญชีพ่อของฉัน ซึ่งทุกอย่างรวดเร็วโดยใช้เวลาเพียง 30 นาที หรือสูงสุดประมาณ 2 ชั่วโมง”

Entralgo อธิบายว่าวิธีนี้มีข้อดีอีกอย่างคือ “คุณไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นจำนวนมาก และมันจะดีกว่าสำหรับคุณเพราะโดยส่วนใหญ่แล้วราคา Bitcoin ในเวเนซุเอลานั้นน่าดึงดูดมาก”

Arcane Research รายงานว่า 43% ของการซื้อขาย Bitcoin ทั้งหมดในละตินอเมริกาเกิดขึ้นในเวเนซุเอลา

มีชาวเวเนซุเอลามากกว่า 4 ล้านคนที่หลบหนีออกนอกประเทศในปี 2019 ตามรายงานของ Brookings Institute โดยหลายคนมุ่งหน้าไปยังโคลอมเบียที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่ง Bitcoin อาจเป็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์สำหรับชาวเวเนซุเอลาที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศที่ต้องส่งเงินกลับบ้าน

อ้างอิง : LINK

Share on facebook
Share on twitter
Share on linkedin

Radius

ผู้เชี่ยวชาญการเขียนข่าว บทความ ที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin , คริปโตเคอเรนซี่ และ Blockchain ทั้งในไทยและต่างประเทศ อัพเดทราคา มุมมองการลงทุน ใหม่ล่าสุดทุกวัน
ข่าวต่อไป