จากข้อมูลใหม่ของ Statista พบว่ามีชาวอเมริกันเพียง 7% เท่านั้นที่เคยใช้หรือเป็นเจ้าของ Bitcoin ( BTC ) ซึ่งหมายความว่านักลงทุนปัจจุบันใน BTC ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเติบโต
Dan Tapiero ผู้ร่วมก่อตั้ง 10T Holdings กล่าวว่า Bitcoin ยังอยู่ในช่วง “กำเนิด” ของประเภทสินทรัพย์ใหม่ โดยเขาเขียนว่า :
“มันยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นมาก ๆ สำหรับ Bitcoin ในการเป็นจุดเริ่มต้นของสินทรัพย์ใหม่ระดับโลก”
ในระยะยาว, Bitcoin มีศักยภาพในการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญที่จะพัฒนาเป็น store of value อย่างเช่นทองคำ และหากเป็นเช่นนั้น นักลงทุนคาดก็ว่าการประเมินมูลค่าจะเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณในทศวรรษหน้า
สิ่งที่จำเป็นสำหรับการยอมรับ Bitcoin
ปัจจุบันความต้องการ Bitcoin ส่วนใหญ่มาจากนักลงทุนที่มองว่า BTC เป็นทองคำ 2.0 และเชื่อว่า BTC จะสร้างตัวเองเป็น safe-haven ได้ในที่สุด
ดังนั้นนักลงทุนสถาบันจึงสะสม BTC อย่างมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ตัวอย่างเช่น MicroStrategy และ Stone Ridge ที่ซื้อ Bitcoin มูลค่า 425 ล้านดอลลาร์และ 110 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ
แต่หากความต้องการของรายย่อยสำหรับ Bitcoin เพิ่มขึ้นควบคู่กันไปด้วย ก็อาจทำให้ BTC เติบโตได้แบบทวีคูณ
ข้อมูลจาก Statistica แสดงให้เห็นว่ามีเพียง 6 ประเทศที่มีประชากรมากกว่า 10% เป็นผู้ใช้ Bitcoin ซึ่งประเทศอันดับต้น ๆ ในแง่ของผู้ใช้ Bitcoin คือไนจีเรีย , เวียดนาม และแอฟริกาใต้ จากการสำรวจผู้บริโภคทั่วโลกของ Statista
Tapiero ย้ำว่า การสำรวจนี้ไม่ได้รวมประเทศทั้งหมด ซึ่งอาจพลาดตลาดสกุลเงินดิจิทัลขนาดใหญ่ ตัวอย่างเช่น เกาหลีใต้ ที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อแม้ว่าจะเป็นตลาด Bitcoin ที่ใหญ่มากแห่งหนึ่งของโลกก็ตาม
“นี่เป็นการสำรวจแค่บางประเทศเท่านั้น ไม่ใช่แบบสำรวจจากหัวจรดหาง เช่น มีประเทศที่มีควรอยู่ในลิสต์แต่กลับไม่มี”
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเว็บเทรด Bitcoin และโครงสร้างพื้นฐานได้รับการปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายประเทศที่ขาดโครงสร้างพื้นฐานของเว็บเทรดที่เชื่อถือได้จนถึงทุกวันนี้
ตัวอย่างเช่นแคนาดา ที่ยังขาดเว็บเทรดสกุลเงินดิจิทัลรายใหญ่ในท้องถิ่นที่ได้รับการควบคุมอย่างเข้มงวดที่ผู้ใช้จะวางใจได้นอกเหนือจาก Coinbase ซึ่งหากมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี นักลงทุนรายย่อยก็จะเข้าสู่ตลาดได้ง่ายขึ้น
หากไม่มี exchange-traded funds (ETF) และผู้ดูแลธนาคารรายใหญ่ ผู้ใช้ยังคงต้องผ่านกระบวนการที่ค่อนข้างซับซ้อนในการใช้เว็บเทรด ซึ่งจำเป็นต้องมีกระบวนการตรวจสอบ Know Your Customer หรือ KYC อย่างละเอียดก่อนที่ผู้ใช้จะสามารถเริ่มการโอนเงินเพื่อซื้อ Bitcoin ได้
ด้วยเหตุนี้ จนกว่าจะมีการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานสำหรับนักลงทุนรายย่อยในวงกว้าง ผู้ใช้จำนวนมากจึงยังต้องดิ้นรนเพื่อเข้าสู่ตลาดสกุลเงินดิจิทัลต่อไป
อ้างอิง : LINK
